สมช.เผยเตรียมเสนอมาตรการผ่อนปรนกิจการระยะที่ 2 เข้าที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ช่วงบ่ายวันนี้

พลเอกสมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือสมช. และประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ พิจารณาผ่อนคลาย การบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด -19 ) ในครั้งที่ 1/2563 ระบุว่า การประชุมเมื่อวานนี้มีประเด็นสำคัญในเรื่องการคลายล็อกระยะที่ 2 และใช้เวลาในการประชุมกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งมีทั้งฝ่ายความมั่นคง กระทรวงสาธารณสุขและฝ่ายปกครองเข้าร่วม
.
ด้านพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์รองผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่า จะมีการนำ ผลสรุปข้อมูลการประชุม เข้าสู่ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี
จะมีการเรียกประชุมในช่วงบ่ายของวันนี้ และหน่วยงานด้านความมั่นคงจะมีการเสนอตามที่นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค.เคยแถลงไป
.
ส่วนความพร้อมการเปิดห้างสรรพสินค้า หลังจากได้เดินทางไปตรวจที่ห้างพารากอนก็มีความพร้อมดี มากกว่าร้อยละ 80-90 ซึ่งจากการประเมินของหน่วยงานด้านความมั่นคงห้างสรรพสินค้าเองมีความพร้อมในการเปิดให้บริการ ซึ่งยังไม่ใช่การเปิดทั้งหมด โดยขณะนี้เองยังห่วงการปรับตัวในวิถีชีวิตแบบใหม่ของประชาชน ซึ่งในขั้นต่อไปประชาชนจะต้องมีการเช็คอิน เช็คเอ้าท์ยังสถานที่ต่างๆเพื่อสะดวกต่อการสอบสวนโรคได้ แต่หากยังไม่ให้ความร่วมมือ จะทำให้การสอบสวนโรคยากขึ้น
.
หากมีการคลายล็อกในระยะที่ 2 การจะส่งผลต่อการทะลักเข้าของคนไทยตามแนวชายแดนหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังคงต่อซีลประเทศอยู่ และปัจจุบันการเข้ามาของคนลักลอบเข้าประเทศยังน้อยลง แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองจะเข้ามามอบตัวเนื่องจากฝ่ายรัฐไม่ได้ลงโทษสถานหนักเป็นเพียงการจัดระบบใหม่
.
ส่วนการทำผลโพลล์ ได้เสนอที่ประชุมให้หน่วยที่ไม่ใช่ทหารเป็นผู้จัดทำ และผลจากการหารือจะยึดผลสำรวจจากหน่วยงานที่ไม่ใช่ทางทหารมากกว่า
.
มีรายงานว่าในการประชุม ศบค.ชุดเล็ก มีการหารือเพียงภาพรวมการเตรียมมาตรการผ่อนคลายให้เปิดบางกิจการเพิ่มเติมได้ ในระยะที่ 2 เพื่อเตรียมประชุมร่วมกับ ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในวันศุกร์นี้ โดยไม่มีการพูดถึงการขยายเวลาเคอร์ฟิว หากมีการอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้าเปิดดำเนินกิจการได้ และ ยังไม่มีการหารือถึงประเด็น การขยายเวลาหรือยกเลิกการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินแต่อย่างใด