สมาคมผู้ประกอบการรถมือสองค้านสรรพสามิตลดภาษีรถใหม่ 50 %

813
0
Share:

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในวันที่ 27-28 พ.ค.นี้ กรมฯ จะหารือกับสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว และกลุ่มสภาอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อรับฟังความเห็น และข้อเสนอการเยียวยาอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลอย่างรอบด้าน ก่อนจะสรุปเสนอให้ฝ่ายนโยบาย นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาต่อไป
.
ส่วนข้อเสนอของ ส.อ.ท. ที่ขอให้ลดภาษีสรรพสามิตลง 50% โครงการนำรถเก่าแลกรถใหม่โดยให้ภาครัฐสนับสนุนชดเชยราคารถเก่ามูลค่าถึง 100,000บาทต่อคัน รวมถึงการเลื่อนใช้มาตรฐานไอเสียยูโร 5 และ6 ออกไปเป็นปี 2565 จะต้องขอดูในรายละเอียดก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะบางส่วนอาจมีทั้งเกี่ยว และไม่เกี่ยวข้องกับกรมสรรพสามิต
.
ด้านนายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว กล่าวว่า การปรับลดราคารถยนต์ป้ายแดง จะส่งผลเสียทำให้วงจรของรถยนต์มือ 2 รวมไปถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้รับผลกระทบในวงกว้างตามไปด้วย ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมอุตสาหกรรมข้างเคียงอย่างรุนแรง

.
สำหรับการดำเนินการดังกล่าว นอกจากจะทำให้รัฐสูญเสียภาษี 40,000-100,000 บาทต่อคันแล้ว ยังเป็นการบิดเบือนราคารถยนต์ ซึ่งจะส่งผลเสียเช่นเดียวกันกับช่วงมีนโยบายรถยนต์คันแรกที่ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบมีปัญหา
.
อย่างไรก็ตาม หากกรมสรรพสามิต ปรับลดอัตราภาษีให้กับรถยนต์มือ 1 จริง จะทำให้การขยายตัวของตลาดรถยนต์มือ 2 ปีนี้ปรับตัวติดลบมากกว่า 20% จากปีก่อนที่มีมูลค่าอยู่ที่ 145,000 ล้านบาท
.
โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมาตลาดรถยนต์มือ 2 ปรับตัวลดลงกว่า 25% แล้ว จากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และสินเชื่อที่ตึงตัวจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงไม่อยากให้กรมสรรพสามิตปรับลดอัตราภาษีตามข้อเสนอของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
.
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2 ตลาดของรถยนต์มือ 2 คาดว่าจะปรับลดลงอย่างน้อยอีก 25% ดังนั้นจึงไม่อยากให้เกิดการแทรกแซงราคากันอีกเหมือนที่ผ่านมา เพราะจะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบพังทลาย ซึ่งในวันที่ 28 พ.ค.สมาคมฯ จะมาประชุมร่วมกับกรมสรรพสามิตและสภาอุตสาหกรรมยานยนต์อีกครั้ง เพื่อรับฟังข้อสรุปว่าเป็นอย่างไร
.
ขณะที่นายองอาจ พงศ์กิจวรสิน นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้กรมฯเร่งพิจารณามาตรการออกมาให้เร็วขึ้น เนื่องจากพอมีกระแสข่าวออกไป ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อรถยนต์ลงอีก จากเดิมที่ยอดขายรถยนต์ตกต่ำอยู่แล้ว เพราะทุกคนต้องการรอใช้มาตรการ
.
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปีนี้คาดว่ายอดการผลิตมีโอกาสจะไม่ถึง 1 ล้านคัน โดยแบ่งเป็นขายในประเทศได้เพียง 500,000 คัน และส่งออกอีก 500,000 คัน เพราะช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมายอดขายปรับลดลงมาก ดังนั้นมองว่า หากรัฐบาลมีมาตรการออกมาก็จะช่วยภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ได้