สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ รพ.ตำรวจเริ่มแห่ถอนเงิน จากกระแสข่าวลบการบินไทย

1024
0
Share:

มีรายงานว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ โรงพยาบาลตำรวจ จำนวนมากเดินทางมาถอนเงินลงทุนหลังมีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่าบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประสบสภาวะขาดทุนอย่างหนักทำให้รัฐบาลต้องเร่งเข้ามาแก้ปัญหาโดยใช้มาตรการฟื้นฟูในรูปแบบต่างๆ ซึ่งหนึ่งในแผนคือการยื่นล้มละลายนั้น
.
โดยกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจรายหนึ่ง เปิดเผยว่า สหกรณ์ฯ ตั้งมา 16 ปี ผ่านวิกฤตต่างๆ มากมายทั้งวิฤตการณ์ต้มยำกุ้ง และกรณีทุจริตในสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น แต่สหกรณ์ฯ ก็ผ่านมาได้ และผลประกอบการในช่วง 7-8 ปี ที่ผ่านมาสามารถทำกำไรให้แก่สมาชิกได้เงินปันผลเฉลี่ยคืนได้มากกว่าสหกรณ์ฯ อื่นๆ
.
นอกจากนี้ยังเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ให้บริษัท ทริสเรตติ้ง จำกัด ดูว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ ซึ่งได้ B+ ถือเป็นเรตติ้งที่สามารถลงทุนได้ ทั้งนี้ สหกรณ์ฯ ได้ลงทุนกับการบินไทยโดยซื้อหุ้นกู้มูลค่า 700 ล้านบาท และสหกรณ์ใหญ่ทั่วประเทศก็ลงทุนกับการบินไทย ที่มีเรตติ้งระดับ A และเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีความมั่นคง และที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาในการชำระหนี้ สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ตามเวลา
.
จึงขอย้ำว่าสหกรณ์ฯ มีทุนสำรองเพียงพอสามารถครอบคลุมหุ้นส่วนนี้ได้หมด ดังนั้นไม่มีปัญหาถ้าหากหนี้จะสูญหากล้มละลาย ไม่กระทบต่อเงินฝาก เงินปันผล รวมทั้งสวัสดิการอื่นๆ ของสมาชิกแน่นอน ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นในองค์กร ส่วนคนที่มาถอนส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสมทบ ซึ่งทางสหกรณ์ฯ ย้ำว่าจะหาเงินมาคืนสมาชิกที่ต้องการถอนให้ครบ เพียงแต่ต้องขอเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะต้องดึงเงินที่ลงทุนจากที่อื่นรวมถึงที่ให้สหกรณ์อื่นกู้มาเสริมสภาพคล่อง จึงขอสมาชิกว่าถ้าไม่มั่นใจและอยากถอนเงินลุงทุนทางสหกรณ์ก็ยินดี
.
ด้านพล.ต.ต.ทรงชัย สิมะโรจน์ ประธานกรรมการดำเนินการ สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ จำกัด ออกหนังสือชี้แจงกรณีการลงทุนในบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ใจความว่า ตามที่เป็นข่าวเผยแพร่ว่าสหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ จำกัด ลงทุนในบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (A) ซึ่งอาจทำให้สมาชิกสหกรณ์ฯ เกิดความกังวลใจต่อการลงทุนดังกล่าวสหกรณ์ฯ ขอเรียนชี้แจงข้อมูลขัอเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ดังนี้

1. สหกรณ์ฯ มีการลงทุนในหุ้นกู้ ตั้งแต่ 2555 และยุติการลงทุนในหุ้นกู้ A ตั้งแต่พฤษภาคม 2562 ซึ่งปัจจุบันสหกรณ์ฯ มีสินทรัพย์ ณ 30 เมษายน 2563 จำนวน 18,135 ล้านบาท มีทุนสำรองจำนวน 727 ล้านบาท มีเงินลงทุนในหุ้นกู้ THAI จำนวน 701 ล้านบาท ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อ ความมั่นคงของสหกรณ์ฯ คณะกรรมการดำเนินการ ขอชี้แจงให้สมาชิกทราบว่าการซื้อหุ้นกู้ THAI เป็นการลงทุน ตามประกาศของคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ พ.ศ. 2558 มาตรา 62 (3) ซึ่งกำหนดให้สหกรณ์ฯ สามารถนำเงินไปลงทุนได้ โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งหุ้นกู้ที่จะซื้อนั้นต้องมีเครดิตเรตติ้งที่ระดับ A ขึ้นไป โดยหุ้นกู้ THAI มีเครดิตเรตติ้งที่ระดับ A ซึ่งสูงกว่าการลงทุนที่ พ.ร.บ.สหกรณ์กำหนดที่ระดับ A-
.
2. THAI มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีรัฐบาลให้การสนับสนุนทางการเงินที่เพียงพอแก่ THAI อย่างต่อเนื่อง และไม่มีปัญหาเรื่องการชำระหนี้เงินต้น และดอกเบี้ย จากประเด็นปัญหาสภาพคล่องของ THAI คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ THAI เพื่อนำเสนอต่อ ครม.ต่อไป ประเด็นสำคัญ ได้แก่ กระทรวงการคลัง จะค้ำประกันหนี้ THAI จำนวน 54,000 บาท เพิ่มทุน จำนวน 80,000 ล้านบาท และปรับโครงสร้างบริษัทใหม่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการชำระหนี้
.
ทั้งนี้ สหกรณ์ฯ ยังมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะใช้ในการบริหารงาน และการดำเนินการต่างๆ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะแจ้งให้สมาชิกทราบเป็นระยะๆ ต่อไป