สว.กิตติศักดิ์จะยกมือหนุน 2 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ภายใต้เงื่อนไขต้องสลัดก้าวไกล

262
0
Share:
สว. กิตติศักดิ์ จะยกมือหนุน 2 แคนดิเดตนายก พรรคเพื่อไทย ภายใต้เงื่อนไขต้องสลัดก้าวไกล

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงทิศทางการลงมติของ ส.ว.เพื่อเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และจะเป็นประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง โดยระบุว่าตำแหน่งประธานรัฐสภาไม่เกี่ยวหรือจะจูงใจให้สมาชิกวุฒิสภาเปลี่ยนแปลงในการลงมติได้ แม้สมาชิกวุฒิสภาจะมีความยินดี และเห็นด้วยในการสนับสนุนให้นายวันมูหะมัดนอร์ มาทำหน้าที่ประธานรัฐสภา จากความรู้ และประสบการณ์ที่ผ่านมา

แต่สำหรับการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ยังมั่นใจว่าจะมีพรรคการเมืองอื่นเสนอชื่อแข่งมากกว่า 1 พรรค แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นบุคคลใดที่จะถูกเสนอชื่อแข่ง และมั่นใจได้ว่าจะมีมากกว่า 1 คน 1 พรรคแน่นอน โดยส่วนตัวยังยืนยันจุดยืนเดิมที่ไม่สามารถสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เนื่องจาก พฤติกรรมและท่าทีหลายเรื่อง รวมทั้งประเด็นที่พรรคก้าวไกลยังคงสนับสนุน การแก้ไขมาตรา 112

ส่วนหากมีการเสนอชื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือนายเศรษฐา ทวีสิน 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยนั้น นายกิตติศักดิ์ ย้อนถามว่า ยังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่หรือไม่ หากมีก็ไม่สนับสนุน แต่หากพรรคเพื่อไทยสลัดออกจากพรรคก้าวไกลก็พอที่จะสนับสนุนได้ เพราะ ส.ว. ต้องการให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ และมั่นใจว่า ส.ว. ส่วนใหญ่ก็คิดเช่นนี้

กรณีที่หากพรรคเพื่อไทย สลัดพรรคก้าวไกลออกจากสมการการจัดตั้งรัฐบาลไปเป็นฝ่ายค้านแล้ว แต่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลกของพรรคฯ ก็ได้รับเสียงข้างมากจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 จะทำให้เกิดปัญหาในการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรในอนาคตหรือไม่ว่า นั้นนายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ไม่กระทบแน่นอน เพราะตามหลักการประธานสภา และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ว ก็จะต้องถอนตัวจากพรรคที่สังกัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการทำหน้าที่ เพราะหากประธานสภา หรือรองประธานสภาฯ เอนเอียง ก็เชื่อว่า จะไม่สามารถเอาตัวรอดได้ ดังนั้นจึงจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบ และกฎหมายอย่างชัดเจน