สัญญาณร้าย! ธุรกิจรับเหมาส่อขาดเงินสด ต้องหาธุรกิจอื่นเสริมรายได้หลัก

248
0
Share:
สัญญาณร้าย! ธุรกิจรับเหมา ส่อขาดเงินสด ต้องหาธุรกิจอื่นเสริมรายได้หลัก

นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ บริษัทมีงานในมือราว 96,000 ล้านบาท ลดลงไป 15-20% อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 คาดว่าน่าจะยังคงเติบโตได้ ซึ่งบริษัทต้องปรับโครงสร้าง และมองหาธุรกิจอื่นเพื่อมาเสริมรายได้ประจำในระยะยาวเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงงานสัมปทาน ที่มีอยู่และสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลในอนาคต

หากมองย้อนกลับในปี 2566 ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในภาพรวมค่อนข้างซบเซา แทบไม่มีโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐมาเปิดประมูล สาเหตุจากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า มีผลกระทบต่อพ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2567 มีผลบังคับใช้ล่าช้าออกไปด้วย จึงทำให้วงการรับเหมาในช่วงปีที่ผ่านมาประสบปัญหาสภาพคล่อง เพราะไม่มีงานใหม่เพิ่ม

คาดสถานการณ์ในปี 2567 น่าจะดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งรัฐบาลมีความต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวให้ไปถึง 3% จึงเป็นไปได้อย่างมากที่รัฐบาลจะเปิดประมูลโครงการใหญ่มากขึ้น เช่น กระทรวงคมนาคมมีแผนจะขออนุมัติโครงการจากคณะรัฐมนตรี จำนวน 7 โครงการ มูลค่ากว่า 1.37 แสนล้านบาท เช่น ทางด่วน มอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ สนามบิน ประกอบ กับพ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 จะประกาศใช้เร็วขึ้นในช่วงเดือนเมษายนนี้ จะส่งบวกต่ออุตสาหกรรมการก่อสร้าง

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบที่กดดันอุตสาหกรรมการก่อสร้างค่อนข้างหนัก คือ อัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดหวังว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือกนง.จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนเมษายนอย่างที่คาดการณ์ หรืออย่างช้าในครึ่งปีหลัง สิ่งที่อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือ คือ มีการส่งเสริมการลงทุน เช่น เข้าถึงเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ลดภาษีให้กับเอกชน เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นและระยะยาว

แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาก่อสร้าง กล่าวว่า หากงบประมาณปี 2567 ล่าช้าอีก อาจส่งต่อสภาพคล่องของผู้รับเหมามากขึ้น เพราะตอนนี้มีบางบริษัทเริ่มติดขัดสภาพคล่องการเงินกันแล้ว เป็นผลจากงานก่อสร้างในมือลดลง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้น จึงอยากให้รัฐเร่งประมูลงานโดยเร็ว เพื่อมาช่วยพยุงสภาพคล่อง ปัจจุบันบริษัทในวงการรับเหมางานก่อสร้างต้องบริหารจัดการค่าใช้จ่ายกันใหม่ เช่น ปรับเวลางานให้เข้ากับเนื้องาน ลดการจ่ายค่าล่วงเวลา