สาธารณสุขวอนคนไทยกรองข่าวเรื่องโคโรนา

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์โรคปอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในไทย ยังยืนยันอยู่ที่ 8 ราย รักษาหายดีกลับบ้านแล้ว 5 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาลอีก 3 ราย แต่ทุกรายอาการดีขึ้น ยืนยันว่าผู้ป่วยโรคนี้ในไทยรักษาได้ 100% ส่วนใหญ่ใช้เวลารักษาประมาณ 7 วัน ก็หายดีกลับบ้าน
.
ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคมีทั้งหมด 102 คน โดยกลับบ้านแล้ว 54 คน โดยเชื้อที่เจอส่วนใหญ่คือโรคไข้หวัดใหญ่ ยังอยู่ รพ.อีก 48 คน ทั้งนี้ ย้ำว่าคนที่เข้าเกณฑ์ไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นผู้ป่วยโรคไวรัสโคโรนาทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ที่ยืนยันว่าเป็นก็ไม่ถึง 10%
.
อย่างไรก็ตามมีการตั้งทีมวิเคราะห์ข่าวที่ประชาชนสนใจในแง่วิชาการและเปิดให้สื่อได้ซักถามทุกวัน
.
ส่วนกรณีข่าวลือต่างๆ เช่น เจ้าหน้าที่ ตม.ติดเชื้อ หรือมีผู้เสียชีวิตที่นครสวรรค์ ยืนยันว่าขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันที่เหลืออยู่ 3 ราย เป็นนักท่องเที่ยวทั้งหมด และไม่มีผู้เสียชีวิต
.
โดยอารมณ์คนไทยตอนนี้กำลังตื่นตระหนก ซึ่งไม่เป็นผลดีกับการทำงานของใครเลย อยากให้ทุกคนและสื่อทุกฝ่ายช่วยกัน ถ้าเจอข่าวแปลกๆ ให้แจ้งมาที่สาธารณสุข เพื่อช่วยเช็กและตอบโต้ข่าวลือ ซึ่งข่าวทั้งกระแสหลักและโซเชียลมีความสำคัญต่อประเทศไทย อยากให้ทุกคนช่วยกันสอดส่องอะไรไม่แน่ใจอย่าเพิ่งแชร์ ให้แชร์มายังสารนิเทศ สาธารณสุขเพื่อช่วยกันตรวจสอบ
.
อย่างไรก็ตามจากการประชุมกับทางสุวรรณภูมิระบุว่า มีนักท่องเที่ยวจีนในไทยประมาณ 2 หมื่นกว่าคนที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ในช่วงนี้ ที่เข้ามาก่อนที่จะมีการปิดเมืองอู่ฮั่น แต่คนกลุ่มนี้กำลังทยอยเดินทางกลับด้วยสายการบินที่นำเข้ามา แต่เป็นเมืองที่อยู่ใกล้ๆ กลุ่มนี้กำลังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังว่ามีอาการป่วยหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันก็ยังปกติดีอยู่
.
ส่วนคำแนะนำทั่วไป หากประชาชนมีแผนจะไปจีน คือให้เลี่ยงไปเมืองแพร่ระบาด และให้เลี่ยงสถานที่แออัด หรือมีผู้ป่วย เช่น โรงพยาบาล // การไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต หรือสัมผัสสัตว์ ให้รับประทานอาหารปรุงสุก ล้างมือบ่อยๆ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับคนอื่น รักษาร่างกายอบอุ่นเสมอ
.
หากกลับมามีอาการทางเดินหายใจใน 14 วันหลังกลับมา ขอให้โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ ถ้าไปด้วยตัวเอง ให้ใส่หน้ากากอนามัยเหมาะสม พบแพทย์ แจ้งอาการประวัติการเดินทางให้ชัดเจน และเนื่องจากยังไม่มีการระบาดในประเทศ ประชาชนยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ และให้ติดตามสถานการณ์จากสาธารณสุข และฝึกปฏิบัติตัวยามตัวเองมีโรคระบบทางเดินหายใจ ใส่หน้ากากอนามัย ถ้ามีไข้หวัดและล้างมือบ่อยๆ