สาธารณสุขอังกฤษชี้ ฉีดครบ 2 โดสไม่ว่าจะไฟเซอร์ หรือแอสตร้าเซเนกา ป้องกันพันธุ์เดลต้าได้

สาธารณสุขอังกฤษ หรือ PHE เปิดเผยผลการศึกษาวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จากการใช้งานจริงในและโลกจริง (ไม่ใช่ผลการศึกษาจากห้องวิจัย หรือการทดลองในคลินิกกับกลุ่มตัวอย่าง) พบว่า จากจำนวนประชาชน 19,000 ราย ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ครบทั้ง 2 โดส ไม่จะได้รับการฉีดวัคซีนจากยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งก็ตาม ซึ่งได้แก่ ไฟเซอร์ครบ 2 โดส หรือแอสตร้าเซเนก้าครบ 2 โดส สามารถช่วยป้องกันอาการป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคระบาดโควิด-19 สายพันธ์ุอัลฟ่า(อังกฤษ) และสายพันธ์ุเดลต้า(อินเดีย) ได้

การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 โดส มีประสิทธิภาพป้องกันสายพันธ์ุอัลฟ่า หรือสายพันธุ์อังกฤษสูงถึง 93.7% และมีประสิทธิภาพมากถึง 88% ป้องกันสายพันธ์ุเดลต้า หรือสายพันธุ์อินเดีย

ขณะที่การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าครบ 2 โดส มีประสิทธิภาพป้องกันสายพันธ์ุอัลฟ่า หรือสายพันธุ์อังกฤษสูงถึง 74.5% และมีประสิทธิภาพมากถึง 67% ป้องกันสายพันธ์ุเดลต้า หรือสายพันธุ์อินเดีย

อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์ทั้งอัลฟ่า และเดลต้าลดลง เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพียงเข็มเดียว หรือเพียง 1 โดส ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนไฟเซอร์ หรือแอสตร้าเซเนก้า โดยพบว่า ประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์อัลฟ่า และเดลต้ามีเพียง 48% และ 30% ตามลำดับ

ดังนั้น ทีมนักวิจัยจากสาธารณสุขอังกฤษ หรือ PHE สรุปผลจากการศึกษาในครั้งนี้เพื่อสนับสนุนทฤษฎีได้ว่า ต้องให้ลำดับความสำคัญแรกสุดของการฉีดเข็มที่ 2 กับผู้ที่มีสุขภาพเปราะบาง และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ ในการเก็บผลการศึกษาดังกล่าว ไม่ได้ศึกษาเปรียบเทียบกับวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่ใช้ฉีดเพียงเข็มเดียวถือว่าฉีดครบโดส อย่างไรก็ตาม นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัย นิวยอร์ค ยูนิเวอร์ซิตี้ เปิดเผยว่า วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เพียงโดสเดียวมีประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดียที่ 33%