สำนักข่าวรอยเตอร์ เปิดบทวิเคราะห์หลังเศรษฐา ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย

สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ภารกิจที่รอนายเศรษฐาอยู่ข้างหน้านั้น เป็นบททดสอบที่ท้าทาย เพราะเพียงหนึ่งวันก่อนที่นายเศรษฐาจะได้รับการโหวตรับรองจากรัฐ สภาสภาพัฒน์ได้เปิดเผยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 1.8% ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ และยังชะลอลงจากไตรมาส 1 อย่างมาก

ขณะที่ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติกล่าวว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนแอ การส่งออกชะลอตัวลงมากกว่าคาด ซึ่งทีมวิเคราะห์ของรอยเตอร์บอกว่า นอกเหนือจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทยแล้ว การที่ไทยมีหนี้ภาคครัวเรือนในระดับสูงแ ละการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ส่งผลกระทบต่อการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ขณะที่การท่องเที่ยวซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ แม้จะฟื้นตัวแต่จำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่ายยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ทั้งนี้สถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอนภายหลังการเลือกตั้ง ทำให้สิ่งที่คณะรัฐบาลชุดใหม่จะต้องเร่งดำเนินการ คือการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของตลาดหุ้นไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่ทำผลงานย่ำแย่ที่สุดในเอเชีย

ส่วนการบริหารจัดการงบประมาณ ปี 67 มูลค่า 3.35 ล้านล้านบาท จะเป็นภารกิจหลักสำหรับนายเศรษฐา ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเมือง โดยในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งนายเศรษฐาและพรรคเพื่อไทยให้คำมั่นไว้กับประชาชนหลายข้อ ซึ่งรวมถึงการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโต 5% ในทุกๆ ปี ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาท และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรเป็น 3 เท่าซึ่งล้วนเป็นบททดสอบที่ท้าทาย