สุพรรณบุรีออกประกาศปิดสถานที่เสี่ยงคุมการแพร่ระบาดโควิด 19 เริ่ม 3 พ.ค.เป็นต้นไป

1560
0
Share:

จังหวัดสุพรรณบุรี ประกาศเรื่อง การปิดสถานที่ การห้าม หรือข้อจำกัดการดำเนินการ หรือการทำกิจกรรมบางอย่างเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
.
โดยสาระสำคัญคือการให้ปิดสถานที่ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่โรค ดังต่อไปนี้
.
2.1 โรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมและสถานที่พักซึ่งมีชื่อเรียกอย่างอื่นที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน เช่น รีสอร์ท โฮมสเตย์ ห้องพักรายวัน ฯลฯ
.
แต่ไม่รวมถึงห้องพักในโรงแรมและสถานที่พักที่มีชื่อเรียกอย่างอื่นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการที่พักอาศัยโดยคิดค่าบริการเป็นรายเดือนขึ้นไป และอพาร์ตเมนต์ ที่มีการให้บริการที่พักแบบรายวัน
.
2.2 โรงมหรสพ โรงละคร โรงภาพยนตร์ และสถานที่จัดให้มีมหรสพทุกประเภท สถานบริการ ร้านคาราโอเกะ ผับ บาร์ สถานบันเทิง สวนน้ำ สนามเด็กเล่น สวนสนุก สวนสัตว์ สถานที่เล่นสเก็ตหรือโรลเลอร์เบรดหรือการละเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน สนามแข่งรถ สนุกเกอร์ บิลเลียด สถานที่เล่นโบว์ลิ่งหรือตู้เกม ร้านเกมและร้านอินเทอร์เน็ต
2.3 สนามพระเครื่อง ตลาดนัดพระเครื่อง (ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันเกินกว่า 3 ร้านขึ้นไป)
.
2.4 ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ สถานที่ท่องเที่ยวบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติในส่วนของอุทยานผักพื้นบ้านเฉลิมพระเกียรติบึงฉวาก ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ สถานที่ท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำและบำรุงรักษากระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ในส่วนของตัวเขื่อนกระเสียว พิพิธภัณฑ์ และห้องสมุดสาธารณะ
.
2.5 สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานดูแลผู้สูงอายุ
.
2.6 สนามมวย สนามชนไก่ สนามซ้อมชนไก่
.
2.7 สระว่ายน้ำสาธารณะ และสระว่ายน้ำที่เปิดให้บริการในโรงแรม
.
2.8 สถานที่ออกกำลังกายภายในอาคาร เช่น ฟิตเนส โยคะ โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) สถาบันลีลาศหรือสอนลีลาศ และอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน
.
2.9 คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานที่สักหรือเจาะผิวหนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย สถานประกอบกิจการอบไอน้ำ อบสมุนไพร สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า
.
โดยให้ปิดสถานที่ดังกล่าวข้างต้นเป็นการชั่วคราว จนกว่าศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) (ศบค.) จะได้ประเมินสถานการณ์และมีข้อกำหนดให้ผ่อนคลายต่อไป
.
3. ห้ามการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภท สถาบันกวดวิชาทุกแห่ง การจัดสอนพิเศษที่บ้าน ที่มีการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เว้นแต่เป็นการดำเนินการสื่อสารแบบทางไกลหรือด้วยวิธีการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
.
4. ห้ามผู้ใดจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมประชุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่าย เช่น การประชุม การสัมมนา การแจกจ่ายอาหารหรือสิ่งของ การจัดเลี้ยง

.
5. ให้บุคคลที่เดินทางกลับมาจากเขตติดโรคติดต่ออันตราย พื้นที่มีการระบาดต่อเนื่อง
ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานครและปริมณฑลไปรายงานตัวกับผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในภูมิลำเนา โดยห้ามเดินทางออกจากที่พำนักอาศัย เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
.
6. ให้บุคคลโดยทั่วไปสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเมื่อออกจากที่พำนักอาศัย
.
7. การปฏิบัติศาสนกิจหรือศาสนพิธีในวันสำคัญทางศาสนาหรือตามประเพณีนิยม ณ ศาสนสถานใดให้เป็นไปตามดุลยพินิจและอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ปกครองดูแลศาสนสถานนั้น โดยให้ถือปฏิบัติตามประกาศกระทรวงวัฒนธรรม เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีการต่าง ๆ ลงวันที่ 1 เมษายน 2563 โดยเคร่งครัด
.
กรณีผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดตามมาตรา 18 พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง