ส่งออกของขวัญปีนี้ติดลบ 3%

896
0
Share:

นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ นายกสมาคมของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน เปิดเผยว่ามูลค่าตลาดสินค้าของขวัญ ของชำร่วยในปี 2562 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตติดลบ 3% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 2.4 หมื่นล้านบาท จากเดิมวางเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 2%
.
โดยมาจาก 4 ปัจจัยสำคัญ คือ 1)เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เงินบาทไทยแข็งค่าขึ้นกว่า 23% // 2) การถดถอยของ เศรษฐกิจโลก และตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐ อเมริกา ญี่ปุ่น จีน และสหภาพยุโรป // 3) ต้นทุนการผลิตที่แพงขึ้น และ 4) ขีดความสามารถในการแข่งขันที่ลดลงในหลายประเภท สินค้าที่ต้องพึงพาแรงงานฝีมือถดถอยลง และแรงงานฝีมือหายไปจากตลาด
.
นอกจากนี้ยังมีประเด็น ค่าจ้างแรงงานฝีมือที่แพงขึ้นด้วยกลไกลของตลาด รวมถึงปัญหาการเข้าถึงแหล่งทุน ของผู้ประกอบการขนาดเล็ก และการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการทำงานยังมีน้อย
.
ส่วนในปี 2563 สถานการณ์อุตสาหกรรมของขวัญของชำร่วยในภาพรวม คาดว่าจะยังไม่ดีขึ้น และยังต้องติดตามดูมาตรการภาครัฐ รวมถึงในปีหน้าหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมีการยกเลิกจัดงาน แสดงสินค้าขนาดใหญ่ Bangkok International Gift Fair & Bangkok International Houseware Fair ที่จัดขึ้นในช่วงเดือนเม.ย. และเป็นงานใหญ่ที่สุดใน อาเซียน ที่จัดมายาวนาน 45 ครั้ง 20 กว่าปี
.
ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจในอุตสาหกรรมฯ จะต้องปรับตัวให้ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกการซื้อในยุคใหม่ อย่างรวดเร็วที่สุดจึงจะสามารถแข่งขันได้ จากการนำเทคโนโลยี สมัยใหม่มาใช้ให้มากขึ้น
.
รวมถึงภาครัฐต้องส่งเสริมสนับสนุน อย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมนี้ และช่วยเหลือให้ผู้ประกอบเข้าถึงแหล่งทุน
.
ส่วนตลาดของขวัญในประเทศมีมูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตลดลง จากกำลังซื้อในภาพรวมที่ลดลง รวมถึงการลดงบประมาณการแจกของขวัญขององค์กรต่างๆ
.
ดังนั้นภาครัฐควรมีมาตรการกระตุ้นออกอย่างต่อเนื่องและเข้าถึงง่าย เช่น โครงการชิมช้อปใช้กระเป๋า 2 ซึ่งหากมีการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจในประชาชนให้ใช้มากขึ้น คาดว่าจะสามารถกระตุ้นให้การจับจ่ายเพิ่มขึ้นได้