ส่งออกแผ่ว! ดูไส้ในส่งออกไทยเมษายนมีอาการแผ่วทั้งตลาดจีน-ยานยนต์-คอมพิวเตอร์

349
0
Share:

ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ หรือ EIC เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนเมษายน 2022 ขยายตัว 9.9% (เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า) ชะลอตัวลงมากจากเดือนก่อนหน้าที่ 19.5% โดยเป็นเทียบช่วงเดียวกันกับในปี 64 แม้เป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 แต่หากหักทองคำ การส่งออกในเดือนนี้จะขยายตัวได้ 8.9% ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 9.5% ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าการส่งออกอาวุธไปญี่ปุ่นในเดือนนี้มีมูลค่ามากถึง 109.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าเป็นปัจจัยเพียงชั่วคราวและไม่ได้สะท้อนภาพรวมการส่งออกของไทย

ด้านการส่งออกรายตลาด พบว่าเกือบทุกตลาดล้วนมีแนวโน้มหดตัว ชะลอตัวลง หรือทรงตัว มีเพียงกลุ่ม CLMV และฮ่องกงที่เร่งตัวขึ้น โดยปัจจัยฉุดสำคัญ ได้แก่ การส่งออกไปจีนที่หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 17 เดือนที่ -7.2% นอกจากนี้ การส่งออกไปยุโรป (EU28) ยังขยายตัวได้ต่ำที่สุดในรอบ 14 เดือน (0.0%) และการส่งออกไปรัสเซียและยูเครนยังคงหดตัวอย่างรุนแรงที่ -76.8% และ -94.9% ในขณะที่การส่งออกไปสวิตเซอร์แลนด์ยังขยายตัวได้สูงที่ 392.2% จากการส่งออกทองคำเป็นหลัก

ในภาพรวมการส่งออกรายสินค้าพบว่าแม้ส่วนใหญ่ยังขยายตัวได้ แต่มีบางหมวดสำคัญที่หดตัวหรือชะลอตัวลงโดย (1) สินค้าเกษตรขยายตัวได้ 3% โดยเฉพาะจากผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังและข้าว แต่มีผลไม้และยางพาราเป็นปัจจัยฉุด (2) สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 22.8% โดยเฉพาะจากไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ น้ำตาลทราย และอาหารเลี้ยงสัตว์ (3) สินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 8.3% โดยเฉพาะจากอากาศยานฯ เหล็ก เหล็กกล้า เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมและแผงวงจรไฟฟ้า แต่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ รถยนต์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยางเป็นปัจจัยฉุดสำคัญ และ (4) สินค้าแร่และเชื้อเพลิงขยายตัว 39% โดยเฉพาะจากน้ำมันสำเร็จรูป

ทั้งนี้ มูลค่านำเข้าในเดือนเมษายน ขยายตัวสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ 21.5% โดยในเดือนนี้ขยายตัวในเกือบทุกหมวดนำเข้าสำคัญ ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง (+99.3%) ที่ขยายตัวตามราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงจากผลของสงครามในยูเครน สินค้าทุน (+10.9%) สินค้าอุปโภคบริโภค (+1.2%) และสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (+11.7%) ยกเว้นสินค้ากลุ่มยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง (-25.2%) โดยในเดือนนี้ดุลการค้าขาดดุล -1,908.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2022 ดุลการค้าขาดดุล -2,852.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ