หนี้โตเร็ว! ไทยพาณิชย์ ประเมิน ดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้า โต 5% ชั่วคราว

183
0
Share:
นายอสมา เหลี่ยมมุกดา นักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยอาจมีปัจจัยบวกจากความไม่แน่นอนของนโยบายการคลัง โดยเฉพาะการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ผ่านโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจากการแถลงปรับเงื่อนไขโครงการเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 กำหนดกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมคนไทย 50 ล้านคน และวงเงินโครงการประมาณ 500,000 ล้านบาท ราว 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่เป็นตัวเงิน (Nominal GDP) ประเมินว่าอาจกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าเติบโตได้สูงเกิน 5% ชั่วคราว
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยอาจกลับมาเติบโตในระดับศักยภาพตามเดิม หากโครงการฯ นี้ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้มากและนานหลายปีตามเจตนารมณ์แรกเริ่มของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยรัฐบาลจะออกร่าง พ.ร.บ. เงินกู้สำหรับใช้เป็นแหล่งเงินของโครงการฯ นี้ จะทำให้ประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีในระยะปานกลางสูงเกินเพดานหนี้สาธารณะ 70% ต่อจีดีพีเร็วขึ้น 2 ปีจากเดิมในปี 2573 อีกทั้ง จะส่งผลให้พื้นที่การคลังของประเทศสำหรับรองรับความไม่แน่นอนต่าง ๆ ในระยะข้างหน้ามีน้อยลง และระยะปานกลาง รวมถึงความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และกระแสโลกแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจที่กำลังเป็นประเด็นสำคัญมากขึ้น เศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูง และมีโอกาสจะเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำมากกว่าความเสี่ยงด้านสูง

ดังนั้น รัฐบาลควรมีแนวทางเชิงรุกในการกำหนดนโยบายสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืนและการต้านทานต่อความไม่แน่นอน ด้วยการมุ่งสร้างกลไกการเติบโตใหม่และเสริมสร้างความสามารถในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยจาก 2 แนวทางหลัก คือ 1.การเติบโตที่นำโดยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เช่น การผลักดันการวิจัยและพัฒนา การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การศึกษาและการพัฒนาทักษะ และการสนับสนุนระบบนิเวศสตาร์ตอัป 2.แนวทางปฏิบัติเศรษฐกิจยั่งยืน เช่น นโยบายส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว การริเริ่มเศรษฐกิจหมุนเวียน และนโยบายตาข่ายความปลอดภัยทางสังคม