หมอธีระชี้เด็กมีโอกาสติดเชื้อโควิดได้เท่าผู้ใหญ่ รัฐต้องเร่งหาวัคซีนที่ประสิทธิภาพสูงให้เด็กๆ

373
0
Share:
หมอธีระชี้เด็กมีโอกาสติดเชื้อ โควิด ได้เท่าผู้ใหญ่ รัฐต้องเร่งหาวัคซีนที่ประสิทธิภาพสูงให้เด็กๆ

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า…สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 8,859 คน สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก หากรวม ATK อีก 3,285 คน ก็ยังคงเป็นอันดับ 8 ของโลก และไม่ว่าจะเป็นแค่ยอดที่รายงานทางการ หรือจะรวม ATK ก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เปรียบเทียบจุดต่ำสุดของการระบาดแต่ละระลอก

หากดูจาก Worldometer หลังสายพันธุ์ G การระบาดทั่วโลกลดลงจนจำนวนติดเชื้อเฉลี่ยรายสัปดาห์ต่ำสุดราว 358,000 คนต่อวัน หลังสายพันธุ์อัลฟ่า จุดต่ำสุดประมาณ 360,000 คนต่อวัน แต่หลังสายพันธุ์เดลตา ตอนนี้ค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์กลับต่ำสุดประมาณ 402,000 คนต่อวัน และกราฟระบาดดูจะกำลังจะผงกหัวขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศยุโรปที่หนักขึ้นชัดเจน

สัญญาณดังกล่าวเป็นที่น่ากังวลว่า หน้าเทศกาลของประเทศตะวันตกไม่ว่าจะเป็น Thanksgiving day วันที่ 25 พฤศจิกายน อาจย้อนรอยไปเหมือนปีที่แล้ว ที่หากไม่ระมัดระวังก็จะทำให้เกิดการระบาดสูงขึ้นมาก และต่อเนื่องไปถึงคริสตมาสและปีใหม่ ไทยยังติดเชื้อโควิด-19 เป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน ไทยยังติดเชื้อโควิด-19 เป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน

ในขณะเดียวกัน ก่อนหน้าเค้า ไทยเราก็มีเทศกาลลอยกระทงในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ข่าวออกมาให้เห็นวันก่อนแล้วว่าให้จัดงานลอยกระทงกันได้ ก็คงต้องเตือนไว้ล่วงหน้าว่า ขอให้ระมัดระวังให้มาก เพราะจะไม่เหมือนปีก่อนที่มีการจำกัดกิจการกิจกรรมและยังไม่ได้มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบปีนี้ ถ้าการป้องกันหละหลวม การติดเชื้อแพร่เชื้อย่อมเป็นไปได้มาก และจะนำไปสู่ Blue or Black X’Mas and New Year ได้

ความรู้ล่าสุดเกี่ยวกับโควิด-19 ในเด็กและเยาวชน งานวิจัยจากทีมงานของ US CDC เผยแพร่ในวารสารการแพทย์สากลอย่าง JAMA Pediatrics เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาศึกษาในนิวยอร์คและยูทาห์ ตั้งแต่กันยายน 2020 ถึงเมษายน 2021

สาระสำคัญคือ “เด็กและเยาวชนนั้นมีอัตราการติดเชื้อเทียบเท่ากับผู้ใหญ่” นี่ลบล้างความเชื่อเดิมที่เคยเชื่อว่าเด็กมีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่าผู้ใหญ่ นอกจากนี้ความรู้ปัจจุบันยังมีการศึกษาและชี้ให้เห็นว่า เด็กและเยาวชนนั้นนอกจากติดเชื้อได้เหมือนผู้ใหญ่แล้ว ยังสามารถแพร่เชื้อให้กับคนอื่นได้เช่นเดียวกัน ความเสี่ยงในการติดเชื้อกันในหมู่สมาชิกในครอบครัว ที่พบจากการวิจัยนี้เฉลี่ยแล้วสูงถึง 52%

ดังนั้นเราจึงต้องตระหนักว่า ปัจจุบันเด็กและเยาวชนยังเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงเพราะมีส่วนน้อยเท่านั้นที่ได้รับวัคซีนป้องกันในช่วงที่ผ่านมา และในประเทศไทยนั้น เด็กก็ได้วัคซีนไปแค่บางช่วงอายุเท่านั้น

จากข้อมูลการแพทย์ในปัจจุบัน จึงมีความเสี่ยงสูงมาก หากยังมีสถานการณ์ระบาดรุนแรงกระจายไปทั่ว วัคซีนจำกัดไม่ครอบคลุมทุกช่วงอายุ โดยมีการเปิดสถานศึกษาให้มีการเรียนการสอนกัน ดังนั้นคุณครู และผู้ปกครองทุกท่านจึงควรช่วยกันสอนลูกหลานของเราให้มีความรู้ และมีทักษะในการป้องกันตัวจากการติดเชื้อแพร่เชื้อด้วย

เด็กมีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ได้เทียบเท่าผู้ใหญ่

การช่วยกันผลักดันให้รัฐเร่งจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความปลอดภัย ให้แก่เด็กๆ เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน

การรอให้บริษัทวัคซีนต่างๆ มายื่นขอขึ้นทะเบียนในประเทศ ภาษาทางเทคนิคเรียกว่าการทำงานแบบ Passive mode เหมาะสำหรับสถานการณ์ปกติ

แต่สถานการณ์ระบาดวิกฤติแบบที่เรากำลังเผชิญอยู่ ท่ามกลางนโยบายเปิดประเทศเปิดท่องเที่ยวเปิดค้าขายและเปิดเรียน จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็น Active mode โดยการเล็งเห็นความจำเป็นที่จะรีบติดต่อ เชิญ เจรจา และเสาะหามาให้พลเมืองเด็กของประเทศเรา เพื่อให้เกิดสวัสดิภาพความปลอดภัยในชีวิต มิฉะนั้นจะมีโอกาสที่เกิดการระบาดตามรอยต่างประเทศ ที่เปิดสถานศึกษาไปแล้ว ก็จะตามมาด้วยการติดเชื้อแพร่เชื้อวงกว้าง ทั้งในสถานศึกษาและลามไปยังครอบครัวและสังคมตามลำดับ

ใส่หน้ากาก สำคัญมาก อยู่ห่างคนอื่นเกิน 1 เมตร จะช่วยลดอัตราติดเชื้อลงได้ 5 เท่า