หมอสมศักดิ์ชี้ไม่แนะให้เด็กฉีดวัคซีนแบบไขว้เชื้อตาย+mRNA เผยไฟเซอร์ 2 เข็มพอแล้ว

421
0
Share:
วัคซีน

นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่าปัจจุบันแม้การติดเชื้อโควิดในเด็กส่วนมากไม่มีอาการรุนแรง แต่ใน 2% ของเด็กที่ติดเชื้อมีอาการต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่ง 1 ใน 3 ของจำนวนนี้ต้องเข้าห้องไอซียู หากติดเชื้อแล้วเด็กบางกลุ่มอาจเกิดภาวะมิสซี (MIS-C) หรืออาการอักเสบของหลายอวัยวะขึ้นได้ โดยเฉพาะในเด็กอายุ 5-12 ปี ดังนั้น การฉีดวัคซีนในเด็กยังถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก

สำหรับข้อแนะนำจากกระทรวงสาธาณสุขการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม+ไฟเซอร์ในเด็ก 12-17 ปี นั้น วีคซีนทั้ง 3 ยี่ห้อได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยา (อย.) เพื่อนำฉีดในเด็กได้ ส่วนตัวมองว่า การฉีดวัคซีนเชื้อตายตามด้วยวัคซีนชนิด mRNA จะช่วยลดปริมาณการฉีดวัคซีนเชื้อตายหลายเข็มได้ เนื่องจาก การฉีดเชื้อตาย 2 เข็ม ภูมิคุ้มกันยังขึ้นไม่ดีนัก ส่วนการฉีดไขว้ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นเทียบเท่าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม

แม้การรับวัคซีนสูตรไขว้ในเด็กสามารถทำได้ แต่จริง ๆ ไม่เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีน 2 ชนิด เพราะ วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็มก็มีเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นให้เด็กต้องฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ส่วนกรณีคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เตรียมศึกษาฉีดสูตรไขว้เด็กอายุ 6-11 ปี เหมือนเด็กอายุ 12-17 ปี แนะนำว่าเข็มแรกควรเป็นชนิด mRNA หรือไฟเซอร์ แต่หากฉีดเข็มแรกเป็นเชื้อตายมาแล้ว ก็สามารถฉีดเข็ม 2 เป็นไฟเซอร์

ทางที่ดีที่สุดคนที่ยังไม่ฉีดเข็มแรก ขอให้ฉีดเป็นชนิด mRNA และตามด้วยเข็ม 2 ชนิดเดียวกัน ยกเว้นก่อนหน้านี้ฉีดเชื้อตาย อย่างซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม ก็ต้องฉีดเข็ม 2 เป็นไฟเซอร์ ในส่วนของเรื่องการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรืออาจเกิดการตกค้างจากการฉีดวัคซีน mRNA นั้น ข้อมูลจากประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาระบุว่า ฉีดไฟเซอร์ในเด็ก 2 เข็ม เว้นระยะห่างราว 8 สัปดาห์ ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงกว่าการฉีดห่างกัน 4 สัปดาห์ ราว 10 เท่า และลดการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ ก็ได้แนะนำเช่นนั้น

ส่วนการฉีดบูสเตอร์โดสเข็มที่ 3 ในเด็ก ยังไม่แนะนำ ยกเว้นเด็กกลุ่มเสี่ยง 7 โรค ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งต้องฉีดกระตุ้นเป็นระยะ ๆ คำแนะนำในการฉีดวัคซีนสำหรับกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มีดังนี้

1. เด็กอายุ 5-11 ปี ให้รับวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม 2 เข็ม ขนาด 10 ไมโครกรัม โดยเว้นระยะห่างระหว่างเข็มราว 8 สัปดาห์
2. เด็กอายุ 6-17 ปี ให้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม 0.5 ml โดยเว้นระยะห่างระหว่างเข็มราว 4 สัปดาห์
3. เด็กอายุ 12-17 ปี ให้รับวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีม่วง 2 เข็ม ขนาด 30 ไมโครกรัม โดยเว้นระยะห่างระหว่างเข็มราว 3-4 สัปดาห์ หรือวัคซีนสูตรไขว้ ซิโนแวค+ไฟเซอร์ เว้นระยะห่าง 4 สัปดาห์