หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค. 64 พุ่งสูงสุดในรอบ 9 เดือน

446
0
Share:
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนธันวาคม 2564 ว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 44.9 เป็น 46.2 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา

เนื่องจาก ศบค. ผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์ และมาตรการเปิดประเทศเพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติบินเข้ามาประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว แม้ว่าศบค. มีคำสั่งยกเลิก Test & Go และให้ใช้ระบบกักตัว พร้อมปิดรับลงทะเบียนนักท่องเที่ยวรายใหม่เข้าไทยตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2564 จนถึง 4 มกราคม 2565 ก็ตามนอกจากนี้การตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ส่งผลในเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่คาดว่าจะทำให้การจับจ่ายใช้สอยของคนไทยในการบริโภคและการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

ตลอดจนค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมีมากขึ้นในช่วงปลายปี รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเข้ามาหมุนเวียนเพิ่มเติมในระบบเศรษฐกิจกว่าแสนล้านบาทจะทำให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงเกิดขึ้นทั่วประเทศ และไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ที่มีการแพร่ระบาดในหลายประเทศ อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคตอันใกล้ ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคตอย่างมาก เพราะมีความกังวลในโควิด-19 ในประเทศไทยและทั่วโลก ส่งผลกระทบให้ฟื้นตัวได้ช้าในอนาคต

ซึ่งยังคงส่งผลกระทบในเชิงลบอย่างมากต่อกำลังซื้อภายในประเทศ การท่องเที่ยว การส่งออก ธุรกิจโดยทั่วไป และการจ้างงานในอนาคต โดยยังคงมีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องในระยะอันใกล้นี้ ทั้งนี้หวังว่าสถานการณ์โอไมครอนจะเริ่มคลี่คลายได้ในช่วงปลายเดือนม.ค.ถ้ารัฐบาลมีการจัดการเรื่องค่าครองชีพที่สูงได้ โครงการคนละครึ่งและช้อปดีมีคืนจะเป็นปัจจัยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ในไตรมาส สิ่งสำคัญจะต้องไม่มีการล็อกดาวน์เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความเสียหายโดยยังคงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ไว้ที่ 4%