หอการค้าไทยเล็งถกปัญหาดอกเบี้ย 10 ม.ค.นี้ หวังแบงก์ชาติปรับลด ช่วยต้นทุนผู้ประกอบการ

160
0
Share:
หอการค้าไทย เล็งถกปัญหา ดอกเบี้ย 10 ม.ค.นี้ หวังแบงก์ชาติปรับลด ช่วยต้นทุนผู้ประกอบการ

จากกรณีภาคเอกชน และการเงิน ออกมาแสดงความเห็น ทั้งเห็นด้วย และเห็นต่าง พร้อมมีข้อเสนอเรื่องทบทวนมาตรการของธปท. ที่จะดูแลเรื่องอัตราดอกเบี้ย โดยเสนอให้ลดช่องว่างดอกเงินกู้เงินฝาก หรือ หาแนวทางให้ธนาคารมีส่วนช่วยลดภาระธุรกิจและประชาชนมากกว่าที่เป็นอยู่นั้น

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในมุมมองด้านวิชาการ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นความพยายามของ ธปท.ในการสกัดเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ตลอดจนรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามากในช่วงปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน ยังเป็นการลดช่องว่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯกับไทย เพื่อไม่ให้ห่างกันมากจนเกินไป ซึ่งต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบโดยตรงกับต้นทุนกู้ยืมของผู้ประกอบการและประชาชนในระดับหนึ่ง

โดยหลายฝ่ายยังคงติดตามสัญญาณของ Fed ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงใด ซึ่งมองว่าอัตราดอกเบี้ยไทยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมและพอรับได้ ซึ่งหวังว่า ธปท. จะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว และหาก Fed มีการปรับลดดอกเบี้ยเมื่อไหร่ แต่ก็เชื่อว่า ธปท. คงจะมีการปรับลดดอกเบี้ยให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของเศรษฐกิจไทยต่อไปโดยในส่วนนี้หอการค้าฯและกกร. จะมีการ หารือในประเด็นดังกล่าว ในพุธ (10 ม.ค.)นี้

สำหรับประเด็นตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบต่อเนื่อง 3 เดือน หอการค้าฯ ยังเชื่อว่าส่วนนี้น่าจะมาจากการปรับลดเชิงเทคนิค ตามนโยบายการลดภาระค่าของชีพด้านพลังงานของภาครัฐทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงซึ่งในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังมีการปรับขึ้นเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าไทยยังคงพอมีกำลังซื้ออยู่บ้าง โดยเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 อยู่ที่ 1.23% ประกอบกับนโยบายการคลังภาครัฐจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและคาดว่าปี 2567 อัตราเงินเฟ้อน่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.0-2.5% ซึ่งอยู่ในกรอบที่คลัง และ ธปท. ดูแลไว้ที่ 1–3%

อย่างไรก็ตาม หากธนาคารสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจะช่วยลดภาระประชาชน ลดต้นทุนผู้ประกอบการและช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวก อีกทั้งยังช่วยเร่งให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น