‘หอการค้าไทย’ เตือนรัฐถ้าไม่พร้อมไม่ต้องเร่งเปิดเมือง

481
0
Share:

‘หอการค้าไทย’ เตือนรัฐถ้าไม่พร้อมไม่ต้องเร่งเปิดเมือง
ย้ำ! ต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้ได้ถึง 70% ก่อน
.
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการหารือกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และสมาคมการค้า 12 สมาคมที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมได้เสนอบทเรียนจาก ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ได้ระบุว่าการจะเปิดกทม. ควรมีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มให้ถึง 70% ก่อน พร้อมกำหนดมาตรการต่างๆ ที่ชัดเจน ทั้งระบบควบคุม และระบบติดตามตัว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งต้องพิจารณาความพร้อมอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย
.
ซึ่งปัจจุบัน กทม. มีผู้ได้รับวัคซีนเข็ม 2 ประมาณ 44% เท่านั้น ซึ่งหากเร่งการฉีดวัคซีนให้ได้ 70% คาดว่าจะใช้เวลาถึงประมาณวันที่ 22 ต.ค. 64 และยังต้องรอให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่ควรเร่งเปิดเมืองหากยังไม่พร้อม ซึ่งตามที่รัฐได้ประกาศว่าจะมีวัคซีนทยอยเข้ามาจำนวนมากในเดือนก.ย.-ต.ค. แต่ละจังหวัดได้เตรียมความพร้อมในการช่วยกระจายวัคซีน รวมถึงผู้ประกอบการก็ได้เตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว เพียงแต่ต้องรอดูว่าไทยจะได้วัคซีนเข้ามาได้ครบตามจำนวนที่วางเเผนหรือไม่ และยังรวมถึงความสามารถในการควบคุมการระบาดของไทย
.
ดังนั้นการเร่งเปิดเมืองจนเกินไป ถือว่ามีความเสี่ยงมากพอสมควร หากรอให้ภาคส่วนต่างๆ มีความพร้อมกว่านี้อีกสักระยะ น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า โดยสิ่งสำคัญที่สุดของประชาชนในขณะนี้ คือการป้องกันตัวเอง และปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มงวด นอกจากนี้ พนักงานและผู้ให้บริการในร้านค้าควรจะต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และต้องตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ตามกำหนดระยะเวลาก่อนเปิดให้บริการ ซึ่งหากเข้าเกณฑ์และเงื่อนไข ผู้ประกอบการจะสามารถเตรียมเปิดกิจการได้ที่สำคัญต้องมีวินัย โดยย้ำว่าการเลือกที่จะเปิดประเทศ คนไทยจะต้องได้รับวัคซีนให้มากที่สุด พร้อมมีมาตรการรองรับที่พร้อม ซึ่งจะทำให้การเปิดประเทศเป็นไปอย่างยั่งยืน
.
แม้ว่าการเปิดกทม. เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า และต้องพิจารณาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ซึ่งหากเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ และไม่สามารถควบคุมได้ ผลกระทบที่ตามมาจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง โดยหอการค้าไทยคาดว่าการเปิดกทม. ครั้งนี้ จะมีผู้ประกอบการส่วนหนึ่งที่ยังรอดูสถานการณ์ว่า รัฐบาลจะมีมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ และแนวโน้มนักท่องเที่ยว เพื่อประเมินว่าคุ้มค่าต่อการเปิดดำเนินกิจการหรือไม่ เพราะหากจะต้องเปิดดำเนินการ แปลว่าต้องรันระบบทั้งหมด ต้องเตรียมมาตรการต่างๆ รองรับ เตรียมวัตถุดิบที่ใช้ประกอบการต่างๆ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งเป็นต้นทุนทั้งหมด
.
ทั้งนี้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะนี้ เอกชนมองไปที่การบริโภค และการผ่อนคลายธุรกิจในประเทศมากกว่า และทยอยเปิดตามความเสี่ยงที่จัดการได้ นอกจากนั้น การที่จะทำให้สามารถเปิดเมืองได้นั้น ไม่ใช่ความรับผิดชอบของภาครัฐอย่างเดียว แต่ภาคเอกชน และประชาชน ต้องร่วมมือกันด้วย เพื่อไม่ให้การระบาดกลับมา