หั่นเรียบร้อย! ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ลดเป้าเศรษฐกิจไทยปีนี้จากกว่า 4% เหลือกว่า 3%

ดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาทนั้น มองว่าอาจจะเร็วเกินไปในการประเมิน สาเหตุจากต้องรอดูแหล่งที่มาของเงิน และจะเกิดขึ้นจริงภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 หรือไม่ แต่เบื้องต้นเชื่อว่ายังอยู่ในกรอบวินัยการคลัง เนื่องจากเศรษฐกิจในปีหน้าและถัดไปยังขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐมีรายได้มากขึ้น และจะช่วยสมดุลระหว่างรายได้และรายได้ นอกจากนี้ ที่จำเป็นต้องกระตุ้นภายในประเทศ เนื่องจากการบริโภคเป็นภาคเศรษฐกิจที่แข็งแรง การบริโภคครึ่งปีแรกนี้ขยายตัว 7% แต่การส่งออก -5% ซึ่งดิจิทัลวอลเลตเพื่อช่วยกระตุ้นบริโภค

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยต่อไปว่า ได้ประเมินเศรษฐกิจไทยภาพรวมยังอยู่ในช่วงขยายตัว แม้ว่าเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 ขยายตัวเพียง 1.8% ซึ่งต่ำกว่าคาด โดยเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวได้ระดับ 4.3% อย่างไรก็ดี ธนาคารได้ปรับลดประมาณการจีดีพีปี 2566 อยู่ที่ 3.3% จาก 4.2% และปี 2567 ขยายตัวที่ 4.2% จากคาดเดิม 4.5%

ด้านปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจปีนี้ คือ การเมืองเริ่มนิ่งและมีการกระตุ้นการใช้จ่าย รวมถึงท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี ในช่วง 8 เดือนแรกมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 18 ล้านคน ตกเฉลี่ยเดือนละ 2.2 ล้านคน ซึ่งคาดว่าครึ่งปีหลังช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็น 2.7-2.8 ล้านคนต่อเดือน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวทั้งปีเป็นไปตามคาดที่ 30 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 5 ล้านคน จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.2 ล้านคน

ด้านความผันผวนในตลาดการเงินยังมีอยู่ ซึ่งจะเห็นเงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่าสุดในภูมิภาคที่ระดับ 35.70-35.80 บาทต่อดอลลาร์ แต่คาดว่าจากท่องเที่ยวที่กลับมาภายในสิ้นปีนี้เงินบาทจะกลับมาแข็งค่าในกรอบ 34.00 บาทต่อดอลลาร์

ขณะที่นโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ย 2.25% ต่อปี ในการประชุมวันที่ 27 ก.ย. 2566 ด้วยมติเอกฉันท์ สาเหตุจากแรงกดดันเงินเฟ้อลดลง ภายใต้อัตราเงินเฟ้อปีนี้อยู่ที่ 1.4% และปีหน้าอยู่ที่ 2.1% อย่างไรก็ดี การประชุมเดือน พ.ย. นี้มีโอกาสที่ กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยขึ้น 1 ครั้ง มาอยู่ที่ 2.50% ต่อปี