หาตัวช่วย! ตลาดหุ้นไทยหมดสภาพ ขาดเงินลงทุนระยะยาว ผลตอบแทนส่อเดี้ยงลบทั้งปี

261
0
Share:
หาตัวช่วย! ตลาดหุ้นไทย หมดสภาพ ขาดเงินลงทุนระยะยาว ผลตอบแทนส่อเดี้ยงลบทั้งปี

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย รองประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า สภาธุรกิจตลาดทุนไทยจะเข้าหารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอจัดตั้งกองทุนเพื่อการออมระยะยาวในตลาดหุ้นไทย หรือกองทุนแอลทีเอฟ(LTF) สาเหตุจากเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ในการสนับสนุนให้ประชาชนออมเงินระยะยาวในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แบบ กองทุนดังกล่าวช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐด้วย โดยในแต่ละปีนั้น รัฐบาลใช้เงินดูแลผู้สูงอายุถือว่าอยู่ระดับที่สูง

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร กรรมการ เฟทโก้ และสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวว่า “มันชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าตลาดหุ้นไทยขาดเม็ดเงินลงทุนระยะยาว ซึ่งตอนนี้ก็เห็นชัดว่าปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างมากและต่อเนื่อง เกิดความผันผวนสูงมาก เมื่อนักลงทุนขาดความมั่นใจ หุ้นก็ร่วงแรง ไม่เหมือนในอดีตที่มีเม็ดเงินจากกองทุน LTF เข้ามาพยุงตลาดหุ้นไทย

ขณะนี้ตลาดหุ้นไทยขาดเม็ดเงินลงทุนระยะยาว ตั้งแต่มีการยกเลิกกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งจะเห็นว่าเม็ดเงินลงทุนยาวๆ มีสัดส่วนลดลงเรื่อยๆ
เมื่อตลาดหุ้นไทยลงแรง เพราะไม่มีเงินทุนระยะยาวเข้ามาสนับสนุนตลาดหุ้นไทยเหมือนในอดีต ซึ่งถือเป็นจุดอ่อน และกองทุนต่างชาติที่เคยลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นไทยก็กลายเป็นกองทุนระยะสั้นจากที่นักลงทุนต่างชาติส่งคำสั่งซื้อขายมาก็เป็นโปรแกรมเทรดในสัดส่วนที่สูงมากกว่า 50% จะเห็นได้ว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หรือปี 2556-2566 เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ยังไหลออกจากตลาดหุ้นไทยสูงถึง 930,000 ล้านบาท อยู่ในภาวะที่ขาดเม็ดเงินลงทุนที่มากพอ ในการขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทย

กองทุนเพื่อการออมระยะยาวในตลาดหุ้นไทย หรือ LTF จัดตั้งครั้งแรกในเดือนสิงหาคมในปี 2547 เมื่อถึงปี 2559 ได้มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขจากการถือลงทุนเวลา 5 ปี มาเป็น 7 ปีปฏิทิน จนสิ้นสุดอายุในปี 2562 จะเห็นว่า เม็ดเงินลงทุนเข้ามาในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ที่สำคัญ กองทุน LTF มีแรงซื้อมากจนถึงระดับ 60,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมักจะเข้ามามากในช่วงปลายปี โดยเฉพาะเดือนธ.ค. มากที่สุดราว 20,000 ล้านบาท กองทุน LTF ถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2562 ในยุครัฐบาลที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2566 พบว่า ดัชนีหุ้นไทย SET Index ในรอบ 3 เดือนผ่านมา ตกต่ำ -7.40% ในรอบ 6 เดือนผ่านมา ทรุดแรก -7.57% และตั้งแต่ต้นปีนี้ ดำดิ่งหนัก -15.07% สอดรับกับดัชนีหุ้นไทย MAI Index ในรอบ 3 เดือนผ่านมา ทรุดหนัก -12.47% ในรอบ 6 เดือนผ่านมา ดำดิ่งแรง -19.14% และตั้งแต่ต้นปีนี้ ดิ่งลงเหวลึก -30.88%

ทั้งนี้ ข้อมูลการซื้อขายหุ้นไทยสุทธิแยกตามประเภทนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย ถึงวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2566 พบว่า เฉพาะนักลงทุนต่างชาติแห่เทขายหุ้นไทยสุทธิตั้งแต่ต้นปีนี้ถึง -173,853 ล้านบาท ในเดือนพฤศจิกายน ขายสุทธิ -946 ล้านบาท และเฉพาะเมื่อวานนี้ 6 พฤศจิกายน 2566 ขายสุทธิ -860 ล้านบาท