หุ้นสุดคึก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทะยานเฉียด 400 จุด น้ำมันดิบโลกปิดพุ่งเหนือ 88 ดอลลาร์

252
0
Share:
หุ้นสุดคึก ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดทะยานเฉียด 400 จุด น้ำมันดิบโลกปิดพุ่งเหนือ 88 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,098 จุด +397 จุด หรือ +1.18% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,003 จุด +53 จุด หรือ +1.36% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,174 จุด +149 จุด หรือ +1.36%

สาเหตุจากนักลงทุนกลับมาให้น้ำหนักผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทในตลาดหุ้นกับแนวโน้มดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่อาจเกิดการชะลอตัว ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจจีนที่จะได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดที่กลับทาทวีความรุนแรงในขณะนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 80.95 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.91 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.1% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 88.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.91 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.0% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากซาอุดีอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก เปิดเผยว่ากลุ่มโอเปกพลัสยึดมั่นในมติการตัดลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้กลุ่มโอเปกพลัสอาจตัดสินใจใช้มาตรการอื่นๆ ในการสร้างสมดุลของตลาดและราคาน้ำมันดิบโลกในอนาคต

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,740.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +1.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.1% ราคาทองคำที่ปรับขึ้นรอบเดือนพฤศจิกายนนี้ขึ้นไปแตะสูงสุดที่ 1,786.35 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เมื่อวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ราคาปิดขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนมาถึงวันนี้ ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 7% สวนทางตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมาที่ราคาทองคำตกต่ำมากถึง 15% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมีนาคม

ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับอ่อนค่าในกรอบแคบๆ สอดรับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นปรับลดลงด้วย นักลงทุนรอฟังความคิดเห็นและมุมมองของบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยระยะสั้น