ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งแรงกว่า 350 จุด น้ำมันดิบโลกปิดเหนือ 88 ดอลลาร์

186
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดพุ่งแรงกว่า 350 จุด น้ำมันดิบโลกปิดเหนือ 88 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,629 จุด +354 จุด หรือ +0.76% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,019 จุด +47 จุด หรือ +1.19% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,364 จุด +223 จุด หรือ +2.01% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสวนทางกัน -2.70%, -0.66% และ +0.55% ตามลำดับ

สาเหตุจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกลับมาคึกคักเป็นวันที่ 2 ทำการติดต่อกัน เนื่องจากหุ้นแอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น และเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น มีราคาพุ่งสูงขึ้นจากการได้ประโยชน์ของจีนเปิดประเทศ นักลงทุนยังชั่งน้ำหนักในทิศทางบวกกับแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นจนกระทั่งถึงการตรึงดอกเบี้ยดังกล่าวในปีนี้ นอกจากนี้ ตัวชี้วัดโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ CME พบว่านักลงทุนให้น้ำหนักเพิ่มสูงขึ้นเต็ม 100% ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวเพียง 0.25% ในการประชุมนัดแรกของปีนี้ในวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 81.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน ทำให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้น 5 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ตุลาคม 2022

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 88.19 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในปีผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งปิดสูงสุดในรอบ 1 เดือน 3 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2022 เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น 1.8% และ 2.8% ตามลำดับ

สาเหตุจากจีนแผ่นดินใหญ่บริโภคน้ำมันดิบเดือนธันวาคม 2022 เพิ่มสูงเกือบ 1 ล้านบาร์เรลจากเดือนพฤศจิกายนที่ระดับ 15.41 ล้านบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 เดือน หรือนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ในปีเดียวกัน สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่า ตลาดน้ำมันดิบโลกปีนี้จะตึงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวท่ามกลางรัสเซียตกอยู่ในสถานการณ์ผลิตน้ำมันดิบลดต่ำลงจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตร ในขณะเดียวกัน ปริมาณการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้จะทำสถิติเป็นประวัติการณ์จากการที่จีนเปิดประเทศ นอกจากนี้ กลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียู และกลุ่ม จี7 จะประกาศมาตรการคว่ำบาตรจำกัดเพดานราคาน้ำมันสำเร็จรูปส่งออกของรัสเซียโดยมีผลในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป

ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,932.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +4.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ระดับ 1,925.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ +5.96 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ลดลง +0.24% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 0.4%

ในปีผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวท่ามกลางการส่งสัญญาณจากบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ที่มองว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสุดท้ายอาจต้องสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อช่วงปลายปีผ่านมา

ขณะที่ตัวชี้วัดโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ CME พบว่านักลงทุนให้น้ำหนักเพิ่มเต็ม 100% ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวเพียง 0.25% ในการประชุมนัดแรกของปีนี้ในวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้