หุ้นเทคคึก! ดัชนีหุ้นนาสแดคพุ่งเกือบ 390 จุด จุด น้ำมันดิบโลกปิดดิ่งแรงหลุด 83 ดอลล์

212
0
Share:
หุ้นเทคคึก! ดัชนี หุ้น นาสแดค ดาวโจนส์ พุ่งเกือบ 390 จุด จุด น้ำมันดิบโลกปิดดิ่งแรงหลุด 83 ดอลล์

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,053 จุด -39 จุด หรือ -0.11% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,179 จุด +60 จุด หรือ +1.47% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,200 จุด +384 จุด หรือ +1.25% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดสูงสุดในรอบ 5 เดือนผ่านมา หรือนับตั้งแต่สิงหาคม 2022 สอดคล้องกับดัชนีหุ้นนาสแดคปิดสูงสุดตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 หรือในรอบ 4 เดือนผ่านมา

ในเดือนมกราคม พบว่าดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง เพิ่มขึ้น +2.8%, +6.2% และ +10.7% ตามลำดับ โดยเฉพาะดัชนีหุ้นดาวโจนส์สามารถปิดขึ้นในแดนบวกเป็นเดือนที่ 3 จาก 4 เดือนผ่านมา ส่วนดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ในวันสุดท้ายของมกราคมไม่เพียงทำสถิติดีที่สุดในเดือนเดียวกัน แต่ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 เดือนมกราคมทำสถิติดีที่สุดในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา ขณะที่ดัชนีหุ้นนาสแดคทำสถิติเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 สอดคล้องกับดัชนีหุ้นนาสแดคเดือนมกราคมทำสถิติปิดดีที่สุดในรอบ 22 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา

สาเหตุจากผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของบริษัทเมตา อินคอร์ปอเรชั่น หรือเฟสบุ๊ก ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ ยังประกาศซื้อคืนหุ้นในตลาดหุ้นรวมมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.32 ล้านล้านบาท ส่งผลราคาหุ้นเมตาพุ่งสูงถึง 23% ดีที่สุดในรอบ 9 ปี หรือตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่นักลงทุนรออคอย ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกาประจำเดือนมกราคม โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 187,000 คน ซึ่งจะประกาศในคืนวันนี้ ขณะที่เมื่อวานนี้ พบว่าการจ้างงานภาคเอกชนในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นเพียง 106,000 คน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 190,000 คน และยังเป็นการจ้างงานที่ลดต่ำลงมากจากเดือนธันวาคมปี 2022 ที่เพิ่มสูงถึง 235,000 คน

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 75.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.7% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลง 2 วันติดต่อกันรวม 2.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.8%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน ทำให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้น 5 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ตุลาคม 2022

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 82.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.67 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.8% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลง 2 วันติดต่อกันรวม 3.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.9%

ในปีผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากตัวเลขคำสั่งซื้ออุปกรณ์เครื่องจักรอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคมปี 2022 ของสหรัฐอเมริกาลดต่ำลง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวแข็งค่ามากขึ้นปริมาณสำรองน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงขึ้นเกินความคาดหมายของตลาด ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี 8 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2021 เป็นต้นมา โดยปริมาณสำรองน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 มกราคมผ่านมา ส่งผลสต๊อกน้ำมันดิบในสหรัฐอเมริกาเพิ่มเป็น 452.7 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ยังเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกันที่สต๊อกน้ำมันดังกล่าวเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา

กลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียู เตรียมประชุมครั้งสุดท้ายในวันนี้ เพื่อขอมติอย่างเป็นเอกฉันท์จากประเทศสมาชิกทั้ง 27 ชาติในการประกาศบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันสำเร็จรูปจากรัสเซียด้วยการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดีเซลที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และน้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ 45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป

ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,927.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -15 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.77% ขณะที่ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ระดับ 1,915.09 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ -36.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ -1.91% โดยในช่วงระหว่างวันของเมื่อวานนี้ พบว่าราคาทองคำพุ่งทะยานสูงถึง 1,956.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 9 เดือนครึ่ง หรือนับตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2022 ซึ่งในวันนั้น ทองคำมีราคาที่ระดับ 1,957.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ในปีผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกทะยานแข็งค่าสูงมากขึ้น สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี กลับเพิ่มขึ้น หลังจากประธานเฟดยังส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวในอนาคตอีกราว 2-3 ครั้ง และมองว่าอัตราดอกเบี้ยสุดท้ายจะอยู่สูงกว่าระดับที่เฟดเคยคาดการณ์ไว้ แต่ยอมรับว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาเข้าสู่การปรับลดลงอย่างชัดเจน นอกจากนี้ นักลงทุนยังทำกำไรช่วงสั้นหลังจากเมื่อวานนี้ราคาทองคำพุ่งปิดสูงสุดในรอบ 9 เดือนกว่า