หุ้นไทยปิดบวก 5.47 จุด ยืนเหนือ 1,400 จุด รับบอนด์ยีลด์ปรับลงลุ้นเฟดลดดอกเบี้ยปีหน้า

176
0
Share:
หุ้นไทย ปิดบวก 5.47 จุด ยืนเหนือ 1,400 จุด รับบอนด์ยีลด์ปรับลงลุ้นเฟดลดดอกเบี้ยปีหน้า

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดอยู่ที่ 1,400.37 จุด บวก 5.47 จุด หรือ 0.39% มูลค่าซื้อขาย 42,449.44 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวขึ้นตลอดทั้งวันซึ่งทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,395.19 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,406.40 จุด

โดยดัชนีวันนี้ ปรับตัวขึ้นจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงของเฟด ในขณะที่ในประเทศหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี – โรงกลั่น – อิเล็กทรอนิกส์ดันดัชนีด้านหุ้นน้องใหม่ MGI ไร้ปัจจัยต่อตลาดแค่เก็งกำไรระยะสั้น

3 หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. AOT มูลค่า 2,777.70 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 59.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.24%
2. PTT มูลค่า 1,992.75 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 35.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.40%
3. JAS มูลค่า 1,231.31 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 2.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 24.69%

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาค รับความคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวลงต่อเนื่องทำให้แรงกดดันตลาดลดลง ประกอบกับมีแรงซื้อกลับหุ้นที่ปรับตัวลงมาก อาทิ TRUE, IVL, CPALL รวมถึงหุ้น Big Cap ที่ปรับตัวลงมาก่อนหน้า ส่วนหุ้น JAS มีแรงเก็งกำไรเข้ามาหนาแน่นลุ้นรับเงินปันผลพิเศษหลังจากขายกิจการ บมจ.ทริปเปิลที บอนด์แบนด์ (3BB)

แนวโน้มตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ คาดยังคงรับ Sentiment ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย ติดตามบอนด์ยีลด์ อายุ 10 ปี ซึ่งอยู่ที่ 3.9% บวกลบ มีโอกาสทำจุดต่ำสุดได้ และในวันศุกร์นี้ (22 ธ.ค.) สหรัฐประกาศตัวเลข PCE ตลาดคาดว่าเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวแต่ก็ให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไร ให้แนวต้านแรก 1,408 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,425 จุด แนวรับที่ 1,390–1,395 จุด

ด้านนายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ดัชนี ปรับตัวขึ้นตลอดทั้งวันเพราะได้อานิสงส์ต่อเนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยก่อนหน้าหุ้นส่วนใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นวันนี้ในกลุ่ม SET 100 และเป็น Global Play ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มปิโตรเคมี โรงกลั่น และอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งบางกลุ่มอย่างซีพีและบ้านปูก็มีแรงซื้อกลับ และกลุ่มโรงไฟฟ้า – พลังงานอาจได้รับแรงกดดันจากการประกาศลดค่าไฟของรัฐบาล

ส่วนหุ้นน้องใหม่อย่างมิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล (MGI) ไม่มีผลกระทบต่อดัชนี เพราะมีมาร์เก็ตแคปอยู่เพียง 3,000 ล้านบาท ดังนั้นจึงเป็นแค่การเก็งกำไรของคนเฉพาะกลุ่มที่สนใจธุรกิจความงามและความมีชื่อเสียง

ทั้งนี้ ประเมินว่าวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.66) ดัชนีมีแนวโน้มบวกต่อในกรอบ 1,380–1,410 จุด