หุ้นไทยโดนเท ! ตลาดหุ้นไทยยังทรุดหนัก ต่างชาติเทขายแล้วกว่า 1.7 แสนล้าน

206
0
Share:

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า SET Index ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน ..2566 เป็นในทิศทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ทั่วโลก  จากความกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ยังคงตึงเครียดและจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 5%  โดย SET Index  สิ้นเดือนต..2566 หลุดกรอบ 1,400 จุดมาปิดที่ 1,381.83 ปรับตัวลดลง 6.1% จากเดือนก่อนหน้า ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนตุลาคม 2566 อยู่ที่ 47,213 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องกว่า 15,649 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวมกว่า 171,021 ล้านบาท

ส่วนกรณีช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้น IPO ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เกิดจากความเชื่อมั่นนักลงทุนที่หายไป รวมทั้งกรณี MORE และ STARK ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ไขมาโดยตลอดยอมรับว่าอาจป้องกันไม่ได้ 100% แต่เชื่อว่าจะช่วยให้ปัญหาเหล่านี้เกิดได้ยากขึ้น ส่วนการปรับปรุงเรื่อง Short Sell จำเป็นต้องใช้ข้อมูลประกอบหลายด้าน ซึ่งได้มีการดำเนินการมาโดยตลอดร่วมกับ ..โดยยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการ Short Sell แบบเกาหลี ส่วนกรณี  Naked Short Sell  ทำไม่ได้แน่นอนเพราะมีข้อกำหนดที่เข้มงวดตาม ,..หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน มองว่าภาวะเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน แรงกดดันเงินเฟ้อทั่วโลกลดลงอย่างชัดเจน และไม่น่ากลับมาเป็นปัญหา ขณะที่แนวโน้ม FED มีโอกาสยุติดอกเบี้ยขาขึ้นที่ระดับปัจจุบันกำไรบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกมีทิศทางดีขึ้น คาดว่าจะปรับสู่ขาขึ้นในปีหน้า ขณะที่เม็ดเงินเริ่มทยอยไหลเข้ากองทุนEmerging Market นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาดหุ้นเอเชีย ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสกลับมา Outperform ในปีหน้า โดยมองว่าแม้ตลาดหุ้นปรับลดลง 6% จากสงครามอิสราเอลและกลุ่มฮามาส แต่ในระยะต่อไปหากสถานการณ์ไม่บานปลาย จะส่งผลต่อตลาดหุ้นจากนี้ไม่มาก สังเกตได้จากกรณีความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่เมื่อผ่านไประยะหนึ่งก็เป็นปัจจัยกระทบต่อตลาดหุ้นน้อยลง สำหรับตลาดหุ้นไทย ปัจจัยที่ส่งผลกระทบได้แก่ความมั่นใจในนโยบายของรัฐบาลที่ยังไม่ชัดเจนเพียงพอ แต่ที่ผ่านมาจะเห็นว่ารัฐบาลมีการปรับตัวและรับฟังความคิดเห็นมากขึ้น โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังวจากนี้ยังมีนโยบายที่รัฐบาลยังต้องทำอีกหลายเรื่อง มองว่าจะเป็นแรงจูงใจให้แรงซื้อของนักลงทุนกลับมา  โดยประเมิน Turning Point ในปีนี้อาจไม่ทัน อาจต้องรอถึงต้นปีหน้า