หุ้น DELTA ดิ่งแรงมากกว่า 21% ราคาลงกว่า 25.25 บาท ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์

266
0
Share:
หุ้น DELTA ดิ่งแรงมากกว่า 21% ราคาลงกว่า 25.25 บาท ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 66 หุ้น DELTA ของผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ราคาปรับลดลง 25.25 บาท หรือ -21.49% ล่าสุด ณ เวลา 13.47 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ 92.25 บาทต่อหุ้น มูลค่าซื้อขายรวม 2,667 ล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของกระดาน จากที่ช่วงปิดตลาดครึ่งวันเช้า (12.30 น.) ทำระดับหุ้นสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของกระดาน

ทั้งนี้จากราคาที่ลดลงดังกล่าวมีผลกระทบต่อดัชนี 25.7006 จุด ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) เช้านี้ปรับลด 1.67% อยู่ที่ 1,538.68 จุด ร่วงลงกว่า 18 จุด

นายจาง ช่าย ซิง กรรมการ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ชี้แจงกรณีตลาดหลักทรัพย์สอบถามถึงพัฒนาการของบริษัว่าบริษัทไม่มีพัฒนาการใดๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย หรือสารสนเทศที่มีนัยสำคัญที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาและอาจเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะเวลาอันใกล้ และไม่ทราบสาเหตุอื่นที่อาจส่งผลกระทบการซื้อขาย

สำหรับในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา หุ้น DELTA ราคาปรับตัวขึ้นแรงกว่า 14% จนกระทั่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศให้ หุ้น DELTA เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 2 (T2) โดยห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณวงเงินซื้อขาย และให้ติด Cash Balance (ซื้อขายโดยใช้เงินสดเท่านั้น) รวมถึงห้าม Net settlement (ห้ามสมาชิกหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน)

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อ 16 มิ.ย.66 โดยประมาณการณ์กำไรธุรกิจหลักของ DELTA ในไตรมาส 2 ปี 66 อยู่ที่ 3,800 ล้านบาท ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากคำสั่งซื้อเร่งตัวขึ้นตามฤดูกาล และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ซึ่งจะทำให้มีกำไรจากธุรกิจหลักในช่วงครึ่งแรกของปี 66 อยู่ที่ 7,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 45% ของประมาณการกำไรเต็มปี

โดยคาดว่าไตรมาสนี้ DELTA ยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 976 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนยอดขายครึ่งแรกของปี 66 อยู่ที่ 1,900 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 50% ของสมติฐานยอดขายทั้งปี

และคาดการณ์ว่าคำสั่งซื้อเกี่ยวกับ ดาต้าเซ็นเตอร์ (data centers) ยังคงอ่อนแอ เพราะมุมมองที่ระมัดระวังของคำสั่งซื้อในช่วงที่อุปสงค์มีสัญญาณชะลอตัว และจากความกังวลเศรษฐกิจโลก แต่ยังคงคาดว่ายอดขายกลุ่มยานยนต์จะฟื้นตัวขึ้น และเติบโตสูงสุด 78% จากปีก่อน หรือ ~24% ของรายได้รวม ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2 ปี 66 คาดว่าจะอยู่ที่ 22% ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะมีการตั้งสำรองสำหรับสต็อกเก่าลดลง แต่จะแย่ลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะ product mix ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นครึ่งแรกปี 66 อยู่ที่ 21.4% ต่ำกว่าสติฐานในปัจจุบันที่ 23.8% และต่ำกว่าเป้าของบริษัท 23-24% อย่างไรก็ตามยอดขายของ DELTA น่าจะดีขึ้นในครึ่งหลังปี 66 เนื่องจากยอดส่งออกเซิฟเวอร์ตลาดโลกดีขึ้น และบริษัทมีการขยายกำลังผลิตจากกลุ่มที่เกี่ยวกับยานยนต์ แต่อัตรากำไรจะเผชิญแรงกดดันจากค่าเงินบาทและ product mix