ห่วงดีลซีพีซื้อกิจการเทสโก้ โลตัส จะกระทบกลุ่มรายย่อยหนัก

1656
0
Share:

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย และรองประธานสมาพันธ์ เอสเอ็มอีไทยกล่าวถึงกรณีเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี เข้าซื้อซื้อกิจการเทสโก้ในประเทศไทย-มาเลเซีย วงเงิน 10,576 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.38 แสนล้านบาทว่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสอบถามความเห็นร้านค้า เพื่อรวบรวมปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับร้านค้าปลีกรายย่อย โชห่วย เมื่อเกิดการควบรวมกิจการระหว่างซีพีกับเทสโก้ โลตัส
.
โดยมีทั้งเห็นชอบ และไม่เห็นชอบ แต่โดยภาพรวมต้องการให้มองถึงผลกระทบที่จะเกิดระยะยาว เป็นการแก้ปัญหาและป้องกันปัญหาช่วยผู้ประกอบการรายเล็ก และรวมถึงผู้บริโภค ที่รัฐบาลต้องลงมาแก้ปัญหาและจัดการทั้งระบบ โดยเฉพาะปัญหาการว่างงาน ขณะที่ปัญหาค้าปลีกเกิดขึ้นมายาวนานทุกวันนี้รายเล็กก็ถูกกลืนเกือบทั้งหมด รายใหญ่ก็เหมือนผูกขาดตลาดอยู่แล้ว
.
ส่วนตัวคาดว่าการที่ซีพีซื้อกิจการเทสโก้ โลตัสในครั้งนี้จะผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าหรือ กขค.
.
ล่าสุดเทสโก้ โลตัสได้แจ้งให้กับผู้ประกอบการรายย่อยที่อยู่ระหว่างการเจรจา นำเสนอ และพิจารณาเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเทสโก้ โลตัสว่าให้สรุปอย่างเร่งด่วน ภายในกลางเดือนตุลาคมนี้ เพราะหากเลยจากนี้ไป จะต้องเปิดเจรจาและนำเสนอเรื่องต่อผู้บริหารใหม่ หรือ กลุ่มซีพี ที่จะเข้ามาดำเนินการทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ต้องล่าช้าออกไปอีกนานนับเดือน
.
ทั้งนี้ผลการพิจารณาของกขค. สามารถออกมาใน 3 แนวทางคือ 1. ไม่ผ่าน หากพบว่ามีการผูกขาดหรือมีอำนาจเหนือตลาด ซึ่งกรณีนี้ซีพีจะถูกยึดเงินมัดจำและหากจะอุทธรณ์ต้องไปร้องต่อศาลปกครอง // 2. ผ่าน คือไม่เข้าข่ายผูกขาดหรือมีอำนาจเหนือตลาด ซีพีจะมีอำนาจในการเข้ามาบริหารจัดการเทสโก้ โลตัสได้ทันที และ 3. ผ่านแบบมีเงื่อนไข ซึ่งกขค. จะกำหนดเงื่อนไขในการดำเนินการ เพื่อจำกัดการผูกขาดหรือมีอำนาจเหนือตลาด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในวงการค้าปลีกประเมินว่า กรณีนี้กขค. จะพิจารณาให้ผ่านแบบมีเงื่อนไข