อธิบดีสรรพากรลั่นปีนี้เก็บภาษีกำไรเงินดิจิทัล เงินเข้ารัฐกว่า 16,000 ล้านบาท

610
0
Share:
สินทรัพย์ดิจิทัล

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผย ความคืบหน้าการจัดเก็บภาษี “สินทรัพย์ดิจิทัล” (digital asset) อย่างคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งกฎหมายการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 ระบุ สินทรัพย์ดิจิทัลหากมีกำไร หรือ มีผลตอบแทนต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 15% ของกำไร และบุคคลที่มีเงินได้จากการซื้อขาย จะต้องยื่นแบบแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย ซึ่งการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ในเดือนมีนาคมนี้ สรรพากร จะมีช่องให้เลือก สำหรับผู้ที่มีกำไรจากการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี เพื่อให้ผู้เสียภาษีแสดงเงินได้ หากใครหลบเลี่ยง กรมฯ ใช้ระบบ data analytics ตรวจสอบข้อมูล เพื่อนำไปสู่การออกหมายเรียกมาให้ข้อมูลได้ ตามกฎหมาย

ส่วนการจัดเก็บภาษีจาการซื้อขายหุ้น อัตรา 0.1% จากมูลค่าการขายหุ้นที่เกินกว่า 1 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มเก็บในปี 2565 ซึ่งจะทำให้สรรพากรมีรายได้กว่า 16,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเหตุผลที่ต้องจัดเก็บเนื่องจากต้องสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำ

กรมสรรพากรได้ให้กรอกเงินได้จากคริปโทเคอร์เรนซีในแบบยื่นภาษีแล้ว โดยแบบยื่นภาษีที่จะใช้กันในปีนี้ ช่องที่ให้ใส่เงินได้จากการลงทุนจะมีคำว่า “ประโยชน์ใด ๆ จากคริปโทเคอร์เรนซี หรือ โทเคนดิจิทัล”

ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร จะถือเป็นเงินได้ตามมาตรา40 (4) เงินได้จากผลประโยชน์ หรือ กำไรที่ได้รับจากการโอนคริปโทเคอร์เรนซี หรือ โทเคนดิจิทัล ซึ่งนักลงทุนมีหน้าที่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% และแม้ว่าจะถูกหัก ณ ที่จ่ายไปแล้ว 15% แต่ยังคงต้องนำเงินได้ดังกล่าวมาคำนวณรวมกับเงินได้อื่น ๆ เพื่อยื่นแบบเสียภาษีบุคคลธรรมดาประจำปี ตามปีที่ได้กำไรด้วย ส่วนนิติบุคคลจะถือเป็นกิจการต้องนำกำไรไปรวมคำนวณภาษีประจำปีด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเรียกตรวจสอบย้อนหลัง