อนุทินเผยต้องไปประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่เดินทางเข้าไม่ได้หลังซิโนแวคยังไม่ได้การรับรองในสวิตฯ

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการ ว่าตามนโยบายเปิดประเทศเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติคู่กับการควบคุมการระบาดโควิด-19 อย่างสมดุลกัน สำหรับจังหวัดที่มีประชากรเยอะ มีการเคลื่อนไหวของคนมาก ก็จะมีโอกาสที่พบการติดเชื้อมากกว่าจังหวัดอื่น

ได้คิดว่าขณะนี้ไทยเป็นประเทศเดียวที่เริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 สำหรับผู้ที่จำเป็น เพราะวันนี้ไทยเปิดประเทศ ไม่ใช่เพียงรับเข้ามาประเทศ แต่คนในประเทศต้องออกไปค้าขาย ทั้งประชุม สัมมนา ท่องเที่ยวต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ บางประเทศโดยเฉพาะทางตะวันตก หลายประเทศยังไม่อนุญาตวัคซีนสูตรไขว้ หรือซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม

เช่นตนต้องเดินทางไปร่วมงานประชุมกับองค์การอนามัยโลก ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ยังไม่อนุญาตซิโนแวค 2 เข็ม แม้ตนได้รับการฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 3 แล้ว แต่ประเทศปลายทางกำหนดให้รับ 2 เข็ม ก็ต้องเติมเป็นเข็มที่ 4

ทั้งนี้ยังได้กล่าวอีกว่า ที่ไทยต้องฉีดวัคซีนแบบไขว้ เนื่องจากต้องทำเพื่อสร้างภูมิต้านทานให้มากที่สุด แต่วันนี้มีการเดินทางมากขึ้น จึงต้องมีคู่วัคซีนที่เขารับ เช่น กระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ 1 เข็ม ก็ต้องใส่ไปอีก 1 เข็ม เป็น 4 เข็ม ดังนั้น สธ.ต้องพร้อมที่จะฉีดให้ประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศที่ยังไม่รับวัคซีนไขว้ เพื่อไม่ให้ปิดโอกาสตัวเอง

ดังนี้เราจะให้โควิดทำลายชีวิตเราไม่ได้ ต้องกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติให้เร็วที่สุด เพื่อให้เราเปิดประเทศแล้วมูฟออนด้วยความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม ขออย่าบอกว่าให้เราทำตามประเทศอื่น แต่เราต้องมั่นใจในตัวเอง เพื่อให้เป็นตัวอย่างประเทศอื่น ขอให้มั่นใจว่าเราทำดีอยู่แล้ว ไม่แพ้ประเทศอื่น เราพร้อมให้บริการ ความพร้อมของเวชภัณฑ์และความร่วมมือของประชาชน เป็นจุดแข็งของเราที่สามารถเป็นตัวอย่างได้