“อนุทิน”เพิ่งจะรู้จักผีน้อยเกาหลีใต้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีแรงงานไทย หรือ ผีน้อยที่ลักลอบเข้าประเทศเกาหลีใต้ผิดกฎหมายขอเดินทางกลับประเทศไทยว่า
เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใหม่ ยอมรับเพิ่งจะรู้จักผีน้อย จึงรู้สึกช็อก เพราะเป็นโจทย์ใหม่นอกเหนือจากแผนที่เตรียมไว้ ซึ่งไม่ได้รองรับแรงงานไม่ถูกกฎหมายจำนวนมากดังกล่าว
.
ดังนั้นในวันนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการบริหารจัดการกลุ่มแรงงานไทยที่จะเดินทางมาจากเกาหลี โดยจะดูแลทุกคนให้เต็มที่ ซึ่งกรมควบคุมโรคและหน่วยงานเกี่ยวข้องจะหารือ เพื่อหามาตรการรองรับกลุ่มคนเหล่านี้
.
แต่เบื้องต้นต้องคัดกรองบุคคลที่มาจากเกาหลี จะเข้มข้นกว่ากรณีไปรับคนไทยจากอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งดำเนินการภายใต้ระบบปิด ขอยืนยันว่าเราต้องทำให้ได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพประชาชน โดยจะตรวจคัดกรองผู้โดยสารทุกคนตั้งแต่ลงเครื่อง รวมทั้งผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 9 ประเทศ ที่ตนลงนามในกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2548 ต้องถูกกักตัว 14 วัน เพื่อสังเกตอาการ ยกเว้นที่มีอาการป่วยต้องแยกตัวออกมารักษา
.
ทั้งนี้ถ้าผีน้อยไม่ใช่คนไทยก็คงประกาศไม่ให้มา แต่เพราะเป็นคนไทย มีสิทธิ์ที่จะกลับบ้านเกิด จึงเป็นโจทย์ที่เราต้องมาทำการบ้านในการควบคุม และยืนยันว่าตอนนี้ยาพร้อม หมอพร้อม ห้องพยาบาลพร้อม การคัดกรองเข้มข้น อุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทุกอย่างพร้อมแล้ว
.
นอกจากนี้กลุ่มผีน้อยอาจจะไม่ได้เดินทางมาครั้งเดียว 5 พันคน ซึ่งไทยจะประสานไปยังทุกสายการบินของเกาหลีที่จะเข้ามาไทยว่าจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง หากไม่คัดกรองบุคคลที่จะเดินทางเข้ามาภายในราชอาณาจักรไทย รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ และการกักตัวในเวลาที่กำหนด ผู้ที่เดินทางมาจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งมีบทบัญญัติในกฎหมายอยู่ ขอยืนยันว่าสถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ระยะที่ 3 ที่ต้องมีการแพร่ระบาดในประเทศอย่างวงกว้าง ตอนนี้คนไข้ที่รักษาในโรงพยาบาลจากโรคโควิด-19 เหลือแค่ 10 คนที่เหลือกลับบ้านได้แล้ว แต่ถือว่ายังอยู่ในสภาวการณ์ที่ยาก
.
ส่วนกรณีที่มีส.ส.บางคน นำหน้ากากอนามัยที่มีขนาดบางและอาจไม่ได้มาตรฐานมาแจกให้กับประชาชน ต้องดูว่าความต้องการนำมาใช้เพื่ออะไร เพราะจุดประสงค์ของผู้ที่จะใช้หน้ากากคือคนกลุ่มไหน ส่วนประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เดินทางไปประเทศเสี่ยง หรือสัมผัสกับคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ไม่จำเป็นต้องใส่ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะเป็นข้อกังวล เกิดความกลัวและตื่นตระหนก