“อนุทิน” ยันไม่เคยพูด! ให้ทิ้งวัคซีนโมเดอร์นา ไม่เข้าใจทำไมวัคซีนสั่งซื้อมาช้ากว่าบริจาค

474
0
Share:

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครบ 100 ล้านโดส ว่าขณะนี้เหลือกลุ่มที่ยังไม่ได้เข้ารับวัคซีนเข็มแรกไม่น่าถึง 10 ล้านคน ซึ่งกลุ่มหนึ่งอาจจะเข้าไม่ถึงจริงๆ เพราะมีปัญหาสภาพแวดล้อม สธ.จึงได้จัดหน่วยเคลื่อนที่สำรวจและนำคนเข้ามาฉีดหากไม่สามารถเข้ามาถึงสถานพยาบาลได้

สำหรับอีกกลุ่มที่รอวัคซีนที่ตัวเองต้องการ  เพราะสั่งจองซื้อวัคซีนด้วยตนเอง แต่วัคซีนมาช้าไม่เข้ามาตามกำหนด ซึ่งในปัจจุบัน สธ.ได้รับวัคซีนmRNA เข้ามาแล้ว ทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นาที่รับบริจาคจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา “ผมไม่เข้าใจทำไมวัคซีนที่บริจาคมาถึงก่อนวัคซีนที่สั่งซื้อตามสัญญา ก็ต้องไปดูว่าบริษัทที่เป็นคู่สัญญาจัดส่งวัคซีน ทำไมถึงไม่ปฏิบัติตามสัญญาและใช้ช่องว่างทางสัญญามาเลื่อนกำหนดไปเรื่อยๆ แบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูก แม้จะเป็นกรณีฉุกเฉินที่ต้องยอมรับสภาพแบบนี้ แต่การไม่ปฏิบัติตามสัญญา สธ.ก็บันทึกไว้ว่า ต้องระวังการเซ็นสัญญากับบริษัทนี้

.
และยังได้กล่าวอีกว่า อีกหน่อยจะซื้ออะไรต้องพิจารณามากเป็นพิเศษ หาความน่าเชื่อถือไม่ได้ อาจปรับอะไรไม่ได้ แต่เที่ยวหน้าอาจจะไม่มี เพราะเราต้องดูเจตนารมณ์ เมื่อคุณต้องการให้เราซื้อ เมื่อซื้อแล้วจ่ายเงินแล้ว แต่คุณไม่ส่ง ก็ต้องรับผิดชอบ ต่อให้ไม่ใช่ทางแพ่ง แต่ต้องรับผิดชอบทางชื่อเสียง อนาคต โอกาสการเสนอผลิตภัณฑ์ต่อ สธ. และรัฐบาลไทยคงจะไม่สะดวกนัก

ทั้งนี้ประเด็นการให้ทิ้งวัคซีนโมเดอร์ที่เป็นวัคซีนทางเลือก แล้วให้เข้ารับวัคซีนของภาครัฐก่อน สำหรับประเด็นนี้ตนบอกให้รีบมา เนื่องจากวัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่เข้าตัวเราแล้ว ตอนนี้ไทยมีวัคซีนเพียงพอแล้ว ส่วนที่ไปจองไว้หากยังไม่มาส่งหรือฉีดไม่ได้ก็ให้มาฉีดของรัฐบาลก่อน เพราะมีทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นา ซึ่งวัคซีนที่รัฐบาลจัดให้เป็นวัคซีนที่ดีทั้งหมด แต่คงไม่สามารถบอกการันตีว่า หากจองโมเดอร์นากับเอกชนแล้วจะมาได้รับโมเดอร์นาภาครัฐได้ ขึ้นอยู่กับมาตรการกรมควบคุมโรค

และสำหรับใครที่ยังรอเเละเสียดายเงิน ให้คิดว่าวันนี้ที่จะไปฉีดไฟเซอร์ ก็เป็นวัคซีน mRNA เหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าเงินที่จองวัคซีนโมเดอร์นาไปกับเอกชนจะสามารถเรียกร้องเอาคืนจาก รพ.เอกชน ได้หรือไม่ หากไม่ได้ก็อาจให้รพ.เอกชน เอาไปบริจาคฉีดให้กับบุคคลอื่นที่ รพ.เห็นควรจะเป็นการถ้อยทีถ้อยอาศัย