ออสเตรเลียจ่อหวนใช้มาตรการคุมเข้มพันธ์ุโอไมครอน ติดโควิดรายใหม่กว่า 8,100 ราย
กระทรวงสาธารณสุข ออสเตรเลีย รายงานว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงเมื่อวานนี้ 22 ธันวาคม 2564 จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้น 8,158 ราย ทำสถิติมากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมเป็น 273,075 ราย อยู่อันดับที่ 87 ของโลก ขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่อีก 11 ราย รวมเสียชีวิตสะสมเป็น 2,173 ราย
ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอกและเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย ระบุว่า ได้ประกาศใช้ข้อบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคารสถานที่สาธารณะอีกครั้ง ส่วนสถานที่นัดพบหรือร้านค้าต่าง ๆ ต้องจำกัดจำนวนผู้เข้าชมหรือลูกค้า และต้องให้ทุกคนเช็กอินผ่านระบบคิวอาร์โค้ดก่อนเข้า ขณะที่ทางการรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอกและเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับสอง ก็ประกาศใช้ข้อกำหนดสวมหน้ากากอนามัยเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องลดภาวะตึงตัวของระบบสาธารณสุข ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวมีขึ้นก่อนถึงวันคริสต์มาสเพียง 2 วัน และกระทบต่อแผนเปิดประเทศถาวรของออสเตรเลีย เนื่องจากเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่ระบาดไปทั่วชุมชน แม้ออสเตรเลียมีอัตราฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสสูงกว่าร้อยละ 90 ก็ตาม
ในขณะเดียวกัน ทางการออสเตรเลียรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่กว่า 8,200 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในประเทศ และทำลายสถิติสูงสุดก่อนหน้าที่มี 5,600 คนเมื่อวันพุธ โดยพบผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย ด้านกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียระบุว่า ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่รักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 800 คนนับถึงวันจันทร์ ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเพียง 37 คน และมีผู้ป่วยโควิด 1 คนที่มีอาการหนัก แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 273,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,100 คน