ออเดอร์สั่งซื้อถ่านหุงต้มพุ่ง จ่อขึ้นราคาขายถ่านหุงต้ม

น.ส.สมปอง อายุ 55 ปี ทำธุรกิจเผาถ่านขาย ที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เปิดเผยว่า ตนเป็นคน จ.ร้อยเอ็ด ทำงานเป็นลูกจ้างเตาเผาถ่าน 40 ปี ลาออกมาทำธุรกิจเองได้ประมาณ 7 เดือน ตลาดดีมาก หลังจากราคาแก๊สสูงขึ้น แต่ละเดือนสามารถผลิตได้เต็มที่ประมาณ 3 คันรถบรรทุกสิบล้อเท่านั้น โดยบรรทุกได้คันละ 389 กระสอบ เพราะพื้นที่และเตามีจำกัด ไม่มีเงินทุนจะเพิ่มจำนวนเตา ขณะที่ราคาไม้จากโรงงานรวมทั้งขี้เลื่อย ปรับราคาขึ้นทั้งหมด โดยปีกไม้ราคาเดิมกิโลกรัมละ 50-75 สตางค์ หรือตันละ 500-750 บาท แต่ขณะนี้ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 1 บาท หรือตันละ 1,000 บาท ส่วนไม้ท่อนราคาเดิมกิโลกรัมละ 75 สตางค์ หรือตันละ 750 บาท ขณะนี้ปรับราคาขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 1.20-1.40 บาท หรือตันละ 1,200-1,400 บาท และถ้าช่วงฝนตกก็จะมีการปรับราคาไม้ขึ้นอีก เพราะเข้าไปตัดไม้ในแปลงไม่ได้ ส่วนขี้เลื่อยก็ปรับราคาขึ้นเป็นตันละ 1,000 บาท

เจ้าของลานเทและโรงงาน บอกว่าจำเป็นต้องปรับราคา เพราะน้ำมันขนส่งแพง เตาถ่านก็ยังมีค่าน้ำมันดีเซลที่นำมาใช้เลื่อยไม้ด้วย รวมทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ทำให้มีการปรับราคาขายถ่านด้วย โดยถ่านก้อนเล็กจากไม้ยางพารา จากเดิมกระสอบละ 320 บาท ปรับขึ้นเป็นกระสอบละ 400 บาท ส่วนถ่านก้อนใหญ่จากไม้ท่อนขนาดใหญ่ จากเดิมกระสอบละ 400 บาท ปรับขึ้นเป็นกระสอบละ 440 บาท

ทั้งนี้ จากปัญหาราคาแก๊สเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ถ่านเป็นที่ต้องการอย่างมากในท้องตลาด แต่ละวันมีเจ้าของยุ้งจากกรุงเทพฯ โทรเข้ามาต้องการถ่านไม่ขาดสาย รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ แต่ไม่สามารถขายปลีกได้ ต้องส่งยุ้งประจำที่กรุงเทพฯ เท่านั้น โดยทางยุ้งจะส่งรถบรรทุกมารับ