อังกฤษเตือนโรคโควิด-19 กลายพันธุ์รุนแรงถึงเสียชีวิต

551
0
Share:

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน แถลงผ่านโทรทัศน์ทั่วสหราชอาณาจักรเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์ที่อังกฤษ ซึ่งมีรหัส B.1.1.7 อาจมีความรุนแรงถึงขึ้นส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวเสียชีวิตได้ นอกเหนือจากจะเป็นที่ทราบกันดีว่า สายพันธุ์นี้มีความสามารถในการแพร่ระบาดเร็วกว่า หรือติดต่อกันง่ายกว่าถึง 70% เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม ไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์ในอังกฤษ ถูกค้นพบที่เมืองเค้นท์ (Kent) กรุงลอนดอน และทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนยันว่าวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ทั้ง 2 บริษัทที่ใช้ทุกวันนี้ มีประสิทธิภาพในการป้องกันทั้งเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดั้งเดิม และสายพันธุ์ใหม่
.
นายแพททริค วอลแลนซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่าหลักฐานที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์ดังกล่าวนั้นมีจริง ถึงแม้ว่าจะยังเพียงในเบื้องต้นก็ตาม เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสกลายพันธ์ุถึงโรงพยาบาล ความเสี่ยงในการเสียชีวิตจะลดน้อยลง สำหรับประชาชนที่มีอายุในช่วง 60 ปี ความเสี่ยงของการเสียชีวิตอยู่ที่ 10 ใน 1,000 คนเมื่อติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เก่าหรือดั้งเดิม แต่อัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสำหรับเชื้อไวรัสกลายพันธ์ุนี้ จะเพิ่มเป็น 13-14 คน จาก 1,000 คน ในปัจจุบัน พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์ของสหราชอาณาจักร ถูกพบใน 50 ประเทศทั่วโลก
.
สำหรับการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในสหราชอาณาจักร พบว่า นับตั้งแต่เริ่มมีการฉีดวัคซีนเป็นต้นมาจนถึงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไป 22 มกราคม 2564 มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกเป็นจำนวน 5.38 ล้านคน เฉพาะในวันศุกร์ที่ 22 มกราคม มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนรวม 409,855 คน ด้านกระทรวงสาธารณสุข อังกฤษ เปิดเผยว่า จากการเก็บข้อมูลถึงปัจจุบัน พบอัตราการติดเชื้อไวรัสลดลงระหว่าง 1% ถึง 4% ในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ ยอมรับว่าหากมองในภาพรวมทั้งสหราชอาณาจักร อัตราการติดโรคระบาดโควิด-19 ยังคงน่ากังวล พบว่าทุกๆ 55 คน จะมีผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 จำนวน 1 คน
.
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข สหราชอาณาจักร เปิดเผยว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันที่ 23 มกราคม 2564 เพิ่มขึ้น 40,261 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมขึ้นเป็น 3,583,907 ราย อยู่อันดับที่ 5 ของโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,401 ราย ส่งตัวเลขสะสมเป็น 95,981 ราย