อึ้ง!หูเป่ยยอดตายวันเดียว 43 ราย
วันนี้ 31 มกราคม 2563 เวลา 9.30 น. คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีน มณฑลหูเป่ย แถลงจำนวนผู้เสียชีวิตโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มขึ้นมากถึง 43 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตที่อู่ฮั่นถึง 30 ราย ส่งผลให้ยอดเสียชีวิตรวมในจีนแผ่นดินใหญ่เป็น 213 ราย โดยเฉพาะทำสถิติจำนวนผู้เสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงที่มณฑลหูเป่ยมากที่สุดตั้งแต่พบผู้เสียชีวิตครั้งแรก หรือตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
.
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มขึ้นเป็น 9,816 ราย ประกอบด้วย จีนแผ่นดินใหญ่ 9,692 ราย (ในจำนวนนี้อยู่ที่อู่ฮั่น 5,806 ราย) ฮ่องกง 12 ราย มาเก๊า 7 ราย ไต้หวัน 9 ราย ประเทศอื่นๆในเอเชียไม่รวมจีนอยู่ที่ 62 ราย (ในจำนวนนี้มี 14 รายที่ไทย) ยุโรป 13 ราย อเมริกาเหนือ 8 ราย ออสเตรเลีย 4 ราย และประเทศอื่นๆทั่วโลก(ไม่นับรวมข้างต้น) 4 ราย หากมองเฉพาะใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จะพบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 1,982 ราย
.
สาธารณสุขอิตาลี และเกาหลีใต้ แถลงเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาว่า พบผู้ติดเชื้อโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ใน 2 ประเทศดังกล่าว สำหรับที่อิตาลี พบผู้ติดเชื้อดังกล่าว 2 รายเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้ง 2 คน นับเป็นครั้งแรกในอิตาลี ส่วนที่เกาหลีใต้ พบ 1 รายใหม่เป็นผู้ชายอายุ 28 ปี ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น และกลับถึงสนามบินอินชอนเมื่อวันที่ 23 มกราคม แต่ไม่มีอาการจนกระทั่งถึงวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้ยอดรวมติดเชื้อในเกาหลีใต้เป็น 7 ราย
.
ศูนย์ควบคุมโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐ CDC แถลงยกระดับคำเตือนการเดินทางไปเป็นระดับ 4 นั่นหมายถึงห้ามพลเรือนชาวอเมริกันเดินทางเข้าจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเด็ดขาด สอดรับกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ประกาศในเช้าวันนี้ว่า รัฐบาลประกาศมาตรการงดออกวีซ่าให้ประชาชนชาวจีนในมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นศูนย์กลางแพร่ระบาดโรคปอดอักเสบ เข้าประเทศฟิลิปปินส์เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น นอกจากนี้ เตรียมส่งเครื่องบินเข้าไปอพยพชาวฟิลิปปินส์ในอู่ฮั่นภายในต้นสัปดาห์หน้า
.
ทั้งนี้ในคืนที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก WHO มีมติประกาศภาวะสาธารณสุขฉุกเฉินทั่วโลก จากสถานการณ์อัตราการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในจีนแผ่นดินใหญ่ ส่งผลให้ประเทศทั่วโลก อาจเพิ่มมาตรการสะกัดกั้นที่เข้มข้นมากขึ้นจากเดิมที่ใช้มาตรการกันมาก่อนหน้านี้
