“เกิดเหตุวุ่นเมื่อคืนนี้” มีทูตอ้างสิทธิขอกักตัวในคอนโดย่านสุขุมวิท แต่โดนการปฏิเสธ

632
0
Share:

มีรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุที่คอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท เมื่อสถานทูตเอสโตเนีย ส่งบุคคลจากสถานทูต 1 คนขอเข้าพักที่คอนโดดังกล่าว แต่ฝ่ายอาคารและนิติบุคคลไม่อนุญาต โดยระบุว่าเพื่อความปลอดภัยจากโควิด19 ซึ่งในระหว่างการเจรจา ทางคอนโดฯ ให้บุคคลที่สถานทูตที่ต้องการเข้าพักต้องรอในรถตู้ มีเพียงตัวแทนมาเจรจาเท่านั้น
.
นางนาตาชา รอยส์ รองประธานกรรมการ บริษัท พีพีเอ็ม จำกัด กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ได้รับการติดต่อจากสถานทูตเอสโตเนียว่า จะมีคนจากสถานทูตเข้าพักกักตัว 14 วันที่คอนโดฯนี้ พร้อมกับส่งหลักฐานการตรวจหาโรคโควิด 19 ทั้งจากสถานทูตต้นทาง และสนามบินสุวรรณภูมิ
.
แต่ทางนิติบุคคลยืนยันว่า ไม่อนุญาตให้กักตัว เนื่องจากหากมีการติดเชื้อจะส่งผลต่อลูกบ้านที่มีถึง 604 ห้อง อีกทั้ง ห้องพักที่มีการเช่าไว้ เป็นการเช่าในนามบุคคล ไม่ใช่ในนามสถานทูต จึงขอให้ไปพักที่อื่น แต่ทางตัวแทนของสถานทูตไม่ยินยอม โดยอ้างเอกสิทธิ์ทางการทูต ในการเข้าพัก ทางนิติบุคคลจึงประสานไปยังตำรวจ และสำนักงานเขตคลองเตย ให้เข้ามาช่วยดูแลสถานการณ์

อีกทั้งเมื่อประสานไปยัง ศบค. เพื่อให้ช่วยเรื่องดังกล่าว แต่ได้รับการแจ้งกลับมาว่า ให้ประสานไปยังสถานทูตเอง เนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างคอนโดฯ และสถานทูต
.
ต่อมา เวลาประมาณ 22.00 น.ของวานนี้ ผู้แทนสถานทูตเอสโทเนีย ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอให้จัดสถานที่พักให้ และยินยอมที่จะย้ายไปพักยังสถานที่ที่กระทรวงการต่างประเทศจัดหาไว้ให้
.
ด้านดร. วีระชัย เตชะวิจิตร์ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์เอสโตเนียประจำกรุงเทพมหานครชี้แจงเรื่องข่าวบิดเบือนที่ว่านักการทูตเอสโตเนียเข้าเมืองไทยในฐานะนักการทูตเอสโตเนียว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฎว่าท่านนี้เป็นนักการทูตของ European Union (EU) ประจำประเทศไทย จึงถือว่าอยูในความรับผิดชอบของ EU
.
ดังนั้น EU จึงต้องปฎิบัติตามกฎระเบียบของ ศบค.อย่างเคร่งครัด ทั้งประเทศเอสโตเนียและสถานกงสุลใหญ่ของข้าพเจ้าไม่ทราบการเข้าออกประเทศไทย และจะเข้าไปก้าวก่ายการปฏิบัติราชการของ EUไม่ได้
.
คาดว่าวันนี้ทาง EU หรือกระทรวงต่างประเทศ หรือ โฆษกของ ศบค. คง จะได้แถลงข้อเท็จจริงของความสับสนนี้ให้ทราบต่อไป