เขียวสดใส! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งเกือบ 190 จุด น้ำมันดิบโลกปิดหลุด 79 ดอลลาร์

164
0
Share:
เขียวสดใส! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดพุ่งเกือบ 190 จุด น้ำมันดิบโลกปิดหลุด 79 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,472 จุด +184 จุด หรือ +0.54% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,436 จุด +48 จุด หรือ +1.10% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,721 จุด +215 จุด หรือ +1.59%

สาเหตุจากนักลงทุนมั่นใจในผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของบริษัทเอ็นวีเดีย ที่จะประกาศหลังตลาดหุ้นปิดการซื้อขายในคืนผ่านมา ส่งผลให้หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีมีราคาปิดสูงขึ้น

ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี ลดลงเต่อเนื่องมาที่ระดับ 4.21% ซึ่งยังคงใกล้เคียงระดับ 4.34% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี 8 เดือนกว่า หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2007 เป็นต้นมาก็ตาม ซึ่งเป็นผลลบต่อธุรกิจหรือหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่เนื่องจากนักลงทุนมองว่าราคาหุ้นจำนวนมากในกลุ่มดังกล่าวมีราคาลดลงต่ำมากในช่วงทั้งสัปดาห์ผ่านมา ท่ามกลางการสะท้อนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกายังคงปรับสูงขึ้นในอนาคต

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 78.89 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.01 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.9% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลง 3 วันติดกันรวม -1.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 83.21 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.82 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.98% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลง 3 วันติดกันรวม -1.59 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงถึง 1.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 880,000 บาร์เรล นักลงทุนผิดหวังกับแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ หลังจากเมื่อต้นสัปดาห์ธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ลดดอกเบี้ยกู้ยืมลงเพียงประเภทเดียวจากที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะต้องลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืม 2 ประเภท

ตลาดคาดการณ์ยังคงคาดการณ์ว่าภาวะสต๊อกน้ำมันดิบโลกยังตึงตัวต่อเนื่องท่ามกลางรัสเซียลดการส่งออกน้ำมันดิบ สอดคล้องกับสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่าในครึ่งปีหลังนี้ ภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกจะตึงตัว สาเหตุจากความต้องการใช้น้ำมันดิบของจีนแผ่นดินใหญ่

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,916.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +18.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,948.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +22.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.1% ส่งผลให้ราคาทองคำยังคงมีราคาปิดใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์

เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง สอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี ปรับลดลงจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 16 ปีเมื่อวันอังคารผ่านมา

นักลงทุนให้น้ำหนักสัญญาณและแรงกดดันต่อการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมเดือนกันยายน โดยเฉพาะการคาดการณ์ว่ารอบการสิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจะเกิดขึ้นหรือไม่ และเร็วที่สุดเมื่อไร

ขณะนี้ ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 91%