เข้าตลาดเก่ง! กว่า 10 เดือนตลาดหุ้นไทยยืนหนึ่งหุ้นไอพีโอในอาเซียนกว่า 90,000 ล้านบาท

361
0
Share:
เข้าตลาดเก่ง! กว่า 10 เดือน ตลาดหุ้นไทย ยืนหนึ่ง หุ้นไอพีโอ ในอาเซียนกว่า 90,000 ล้านบาท

นางสาว เท ฮวี ลิง Disruptive Events Advisory Leader ดีลอยท์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสิงค์โปร์ กล่าวว่าประเทศไทยยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำในการระดมทุนจากหุ้นไอพีโอได้สูงสุดในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีมูลค่าทั้งหมด 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 90,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลพวงจากจากหุ้นไอพีโอของบริษัท 28 แห่ง ในแง่จำนวนเงินที่ระดมทุนได้ในปีนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกับจำนวนเงินจากการระดมทุนในปี 2017 – 2019 ซึ่งมากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือกว่า 72,000 ล้านบาท

สถานการณ์ดังกล่าวเป็นสัญญาณว่าสิ่งต่างๆ กลับสู่สภาวะเดิมก่อนเกิดโรคระบาด ส่วนในปี 2020 และ 2021 เงินจากการระดมทุนในแต่ละปีมีมูลค่ามากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 144.000 ล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ นักลงทุนต่างชาติที่ส่วนใหญ่หายไปในช่วงปีที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้กลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง

ด้านนางวิลาสินี กฤษณามระ Disruptive Events Advisory Leader ดีลอยท์ ประเทศไทย กล่าวว่ายังคงเห็นการเสนอขายหุ้นไอพีโอจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภค บริการทางการเงิน และธุรกิจก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ได้เห็น REIT ที่มีการลงทุนในการเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวของท่าอากาศยานเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ มีบริษัท 39 แห่งที่คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนภายในปี 2566

อย่างไรก็ตาม ดีลอยท์ ได้เปิดเผยข้อมูลวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 พบว่าบริษัทต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนสามารถระดมทุนได้เป็นจำนวน 6,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 226,800 ล้านบาทจากหุ้นไอพีโอของบริษัทจำนวน 136 แห่งในปีนี้ ซึ่งปรากฏว่าลดลงถึง 52% จากสถิติ 13,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 478,800 ล้านบาทจากหุ้นไอพีโอของบริษัทจำนวน 152 แห่งในปี 2564

ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ามีหุ้นไอพีโอรายย่อยจำนวนมากขึ้นในปีนี้ ส่วนใหญ่มาจากบริษัทขนาดเล็กที่ต้องการแพลตฟอร์มเพื่อระดมทุนในสภาพแวดล้อมของตลาดที่ท้าทายในปัจจุบัน ในปีนี้ ได้แก่ PT GoTo Gojek Tokopedia Tbk และบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหุ้นไอพีโอรายใหญ่เพียง 2 บริษัทเท่านั้น ดังนั้น อาจหมายความว่าบริษัทขนาดใหญ่ต่างรอเวลาและเลื่อนการเข้าจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ออกไปเพื่อรอช่วงเวลาที่สภาวะตลาดที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม การซื้อขายหุ้นไอพีโอกลับชะลอตัวลงในปีนี้ แม้ว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีขึ้นเล็กน้อย โดยมูลค่าการระดมทุนลดลงถึง 52% เมื่อเทียบกับหุ้นไอพีโอในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรที่ลดลงมากถึง 95% และ 91% ตามลำดับ