เด็กไทยอยากเรียนที่สุดวิชาการเงิน-สื่อโซเชียล-อีสปอร์ต ขอเลิกวิชาลูกเสือ-ยุวกาชาด-พุทธศาสนา

หน่วยงานชื่อว่าร๊อกเก็ต มีเดีย แลป(Rocket Media Lab) กับมูลนิธิพาธทูเฮลท์(Path2Health) จัดทำผลสำรวจเกี่ยวกับสิ่งที่นักเรียนไทยอยากได้จากระบบการศึกษาไทย ซึ่งทำการสำรวจนักเรียระดับ ป.1 – ม.6 รวมถึงระดับปวช. ทั่วประเทศ ในช่วงระหว่างวันที่ 9 – 11 ม.ค. 2567 มีจำนวน 1,985 คน พบว่าวิชาที่นักเรียนอยากให้มีมากที่สุด คือ การเงิน การลงทุน เนื่องจากนักเรียนที่เลือกตอบข้อนี้ 788 คน คิดเป็น 39.7% อันดับ 2 วิชาเกี่ยวกับการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย คิดเป็น 20.96% อันดับ 3 วิชา-อีสปอร์ต คิดเป็น 19.95% อันดับ 4 วิชาเต้นหรือแดนซ์ คิดเป็น 13.5% และอันดับ 5 อื่นๆ คิดเป็น 5.89% ได้แก่ วิชาปฐมพยาบาลเบื้องต้น วิชาการป้องกันตัว วิชาแต่งหน้าทำผม และวิชาทำอาหาร

วิชาที่อยากให้ยกเลิกมากที่สุด คือ ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด คิดเป็น 61.26% อันดับ 2 คือ วิชาพุทธศาสนาคิดเป็น 11.34% อันดับ 3 คือ วิชาหน้าที่พลเมือง คิดเป็น 6.45%

สิ่งที่อยากให้มีมากที่สุด คือ ลดชั่วโมงเรียนให้น้อยลง คิดเป็น 38.14% อันดับ 2 นักเรียนอยากใส่ชุดไปรเวทไปโรงเรียน คิดเป็น 19.45% อันดับ 3 อยากให้มีกิจกรรมประเมินครู คิดเป็น 11.64% ในขณะที่ กิจกรรมที่ไม่อยากให้มีมากที่สุด คือ กิจกรรมหน้าเสาธงคิดเป็น 26.8% อันดับ 2 สมุดบันทึกความดีคิดเป็น 16.52% อันดับ 3 กิจกรรมค่ายธรรมะคิดเป็น 13.9%

สถานที่ที่อยากให้ปรับปรุงมากที่สุด คือ ห้องน้ำ คิดเป็น 69.92% อันดับ 2 ห้องเรียนคิดเป็น 9.42% และอันดับสุดท้ายโรงอาหารคิดเป็น 7.86% ขณะที่กฎที่ไม่ชอบมากที่สุด การกำหนดทรงผม คิดเป็น 49.87% อันดับ 2 การยึดโทรศัพท์คิดเป็น 10.5% อันดับ 3 ห้ามแต่งหน้า ส่วนการลงโทษที่ไม่ชอบมากที่สุด คือ ประจานต่อหน้าเพื่อนคิดเป็น 39.14% อันดับ 2 คือการด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายคิดเป็น 17.93% อันดับ 3 การกล้อนผม การตัดผม คิดเป็น 12.49%