เตรียมเตะฝุ่น! แมคโดนัลด์ สหรัฐ ส่งซิกจะปลดพนักงานครั้งใหญ่ รอฟัง 3 เมษายนนี้

นายคริส เคมพ์ซิงกี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ แมคโดนัลด์ อินคอร์ปอเรชั่น สหรัฐอเมริกา เปิดเผยกับพนักงานว่า ภายในฤดูใบไม่ผลิที่จะมาถึงนี้ มีความเป็นไปไม่ได้ที่จะปลดพนักงานเพื่อเป็นไปตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจและองค์กรโดยมุ่งหวังจะให้แมคโดนัลด์มีประสิทธิภาพในด้านการดำเนินธุรกิจ และผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้ธุรกิจแมคโดนัลด์ก้าวไปอย่างรวดเร็ว

ซีอีโอ แมคโดนัลด์ กล่าวว่า ฝ่ายบริหารจะทำการประเมินผลการทำงานของพนักงานระดับปฏิบัติการทุกคน รวมถึงบทบาทของแต่ละตำแหน่งในทุกแผนกของบริษัท แน่นอนว่าจะเป็นความยากในการถกพูดคุยและนำไปสู่ความยากในการตัดสินใจ แต่ในที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องเกิดขึ้นตามกรอบเวลา สำหรับข้อสรุปทั้งหมดเกี่ยวกับการปลดพนักงาน จะได้รับทราบและประกาศในวันที่ 3 เมษายนเป็นต้นไป

คริส เคมพ์ซิงกี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ แมคโดนัลด์ อินคอร์ปอเรชั่น ยอมรับว่า แม้ในปีผ่านไป การดำเนินงานของแมคโดนัลด์จะอยู่ในจุดที่แข็งแกร่งก็ตาม แต่แมคโดนัลด์ก็ไม่สามารถอยู่ได้ สิ่งสำคัญ คือการเร่งบริหารตามกลยุทธ์การเติบโตแนวคิดอาร์คของบริษัท จุดหนึ่งที่เห็นชัดเจน คือการสลายวัฒนธรรมการทำงานแบบไซโล หรืองานของใครของมันให้หมดไปจากองค์กร เพื่อสร้างวัฒนธรรมการทำงานเน้นระบบเป็นหลักมากกว่าที่ผ่านมา

ความคิดริเริ่มหลายอย่างที่อาจล้าหลังการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจแมคโดนัลด์ จะถูกลดลำดับความสำคัญลง หรือยกเลิกให้หมด จะทำให้แมคโดนัลด์เคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น สามารถลดค่าใช้จ่ายดำเนินธุรกิจทั่วโลก และปลดปล่อยปัจจัยต่างๆในการลงทุนเพื่อเติบโตต่อไปในอนาคต

ด้านผลการดำเนินงานของแมคโดนัลด์ในไตรมาสล่าสุด พบว่า ยอดขายสาขาเดียวกันเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้นถึง 6% ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 9 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม 50% ของจำนวนสาขาร้านแมคโดนัลด์ทั่วสหรัฐอเมริกา ได้รับการประเมินว่าจะทำกำไรลดลงในปีนี้

ด้านแมคโดนัลด์ โฮลดิ้งส์ คอมปานี ญี่ปุ่น เปิดเผยว่าจะปรับขึ้นราคาขายกับ 80% ของเมนูทั้งหมด โดยมีผลวันที่ 16 มกราคมนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้กลายเป็นการปรับขึ้นราคาขายครั้งที่ 3 ภายใน 10 เดือนผ่านมา สาเหตุในการปรับขึ้นราคาในรอบนี้ เป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนมีความผันผวนอย่างมาก รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตอาหารแต่ละเมนูมีราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายด้านค่าจ้างแรงงาน ค่าขนส่ง และค่าพลังงานเชื้อเพลิง ล้วนปรับสูงขึ้นทั้งสิ้น

การปรับขึ้นราคาขายของแมคโดนัลด์เกิดขึ้นมาทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกปรับขึ้นในเดือนมีนาคม ครั้งที่ 2 ปรับขึ้นในเดือนกันยายนของปีที่ผ่านไป ส่วนครั้งที่ 3 คือการปรับขึ้นมีผล 16 มกราคมนี้ ค่าเงินเยนร่วงลงอย่างรุนแรงในรอบกว่า 20 ปีเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐในตลอดปี 2022 กลายเป็นต้นทุนสำคัญและมีผลกระทบสูงมากต่อการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากวัตถุดิบหลายอย่างต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

สาเหตุจากต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตทุกเมนูของแม็คโดนัลด์พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าเงินเยนญี่ปุ่นเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างมากในรอบกว่า 24 ปีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนพุ่งสูงถึงกว่า 60%