เตือนแรงจัด! ธนาคารโลกชี้เศรษฐกิจโลกปี 66 เสี่ยงสูงถดถอย

374
0
Share:
เตือนแรงจัด! ธนาคารโลก ชี้ เศรษฐกิจโลก ปี 66 เสี่ยงสูงถดถอย

ประธานธนาคารโลก นายเดวิด มัลพาส กล่าวว่า ภาวะขยายตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังตกต่ำอย่างรุนแรง โดยจะเห็นการชะลอตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้นเนื่องจากมีประเทศจำนวนมากเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้ แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้จะเกิดขึ้นต่อเนื่องโดยจะเกิดผลกระทบสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจกลุ่มประเทศเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนา

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางทั่วโลกพร้อมๆกัน หรือไล่เลี่ยกัน และนโยบายอื่นๆที่เกี่ยวข้องกัน จะยังคงพบเห็นต่อไปในปี 2023 อย่างไรก็ตาม ผลการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นและนโยบายอื่นๆที่เกี่ยวข้องอาจไม่สามารถช่วยให้ลดระดับอัตราเงินเฟ้อลงมาได้มากพอที่จะได้เห็นอัตราเงินเฟ้อต่ำเหมือนช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19

ถ้าหากปัญหาห่วงโซ่การผลิต และแรงกดดันด้านภาวะการจ้างแรงงานทั่วโลกไม่ลดลง อัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐาน ซึ่งไม่รับรวมราคาพลังงานและอาหาร จะอยู่สูงที่ระดับ 5% ตลอดปี 2023 ทำสถิติพุ่งสูงเกือบ 2 เท่าของค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อขั้นพื้นฐาน 5 ปีก่อนถึงปีเกิดโรคระบาดโควิด-19

ธนาคารโลก เปิดเผยต่อไปว่า ในการแก้ปัญหาวิกฤตเงินเฟ้อสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายทศวรรษนั้น ธนาคารกลางอาจจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มอีก 2% จากอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวที่ถูกปรับเพิ่มขึ้นมาก่อนหน้านี้ถึง 2% เฉลี่ยในปี 2021 ถึง 2022 อย่างไรก็ตาม การปรับดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้นอีก 2% ท่ามกลางภาวะตลาดการเงินโลกที่เต็มไปด้วยแรงกดดันอย่างผันผวน อาจจะกดดันการขยายตัวเศรษฐกิจโลกลงเหลือ 0.5% ในปี 2023 หรือเทียบเท่ากับชะลอตัว -0.4% ในแง่รายได้ต่อหัว ซึ่งนั่นหมายถึงเป็นไปตามคำจำกัดความ หรือความหมายเศรษฐกิจโลกถดถอยทางเทคนิค

ประธานธนาคารโลก นายเดวิด มัลพาส กล่าวว่า ผู้กำกับนโยบายจะต้องปรับเปลี่ยนจุดสำคัญจากการชะลอการบริโภคมาเป็นการเพิ่มการผลิตเพื่อทำให้เกิดการลงทุน และผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจโลกถดถอยที่เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1982 นั้น เป็นผลจากการปล่อยให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสูงครั้งประวัติศาสตร์ต่อเนื่องบนภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ทำให้ประเทศมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลกเกิดวิกฤตหนี้ นำไปสู่ภาระทศวรรษแห่งการสูญเสียการขยายตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา