เทขายหนัก! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดำดิ่งกว่า 340 จุด น้ำมันดิบโลกปิดร่วงหลุด 81 ดอลลาร์

167
0
Share:
เทขายหนัก! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดดำดิ่งกว่า 340 จุด น้ำมันดิบโลกปิดร่วงหลุด 81 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,530 จุด -344 จุด หรือ -1.02% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,071 จุด -65 จุด หรือ -1.58% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,799 จุด -238 จุด หรือ -1.98%

สาเหตุจากนักลงทุนกังวลกับภาคธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกาครั้งใหม่ หลังจากธนาคารเฟิร์สท รีพับลิก แบงก์ เปิดเผยว่าเงินฝากของธนาคารในไตรมาสที่ 1 ลดต่ำลงมาเหลือเพียง 104,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.66 ล้านล้านบาท หรือลดลงมากถึง 40% การเปิดเผยผลการดำเนินงานดังกล่าว อาจสะท้อนถึงความเปราะบางของสถานะธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกายังคงมีอยู่หลังจากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ ล่มสลายเมื่อกว่าเดือนผ่านมา

นอกจากนี้ ตลาดยังคงเฝ้าติดตามธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะมีการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้นอีกภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า คือวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 77.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.69 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.2% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดต่ำสุดในเดือนเมษายน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 80.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.4% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม หรือในรอบเกือบ 1 เดือนผ่านมา

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนกลับมากังวลกับสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา หลังจากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายนในสหรัฐอเมริกาตกต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ถึงแม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่จะขยายตัวเพิ่มจากการท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ทอง หรือ Golden Week ที่จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันแรงงาน 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลความต้องการใช้น้ำมันดิบ และน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกกลับแข็งค่าอย่างรวดเร็วในคืนผ่านมา สอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกากลับเพิ่มขึ้น

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,996.12 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +7.43 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.35% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,006.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ +7.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +0.34%

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากถึงแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้น 0.5% แต่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี กลับลดลงมากจนทำระดับต่ำสุดในรอบเดือน

ทั้งนี้ โอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ CME Watch ที่ระดับ 0.25% พบว่ามีโอกาสถึง 73% ในการประชุมวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้ ซึ่งลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านไปที่มีโอกาสมากถึง 89%