เทบิทคอยน์! เงินบิทคอยน์หลุด 33,000 ดอลล์ ในตลาดเอเชียก่อนเที่ยงวันนี้
เมื่อเวลา 11.00 น. (ตามเวลาฮ่องกง) ตลาดแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล เอเชีย รายงานว่า ค่าเงินบิทคอยน์ถูกเทขายครั้งใหม่ กดราคาดิ่งมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 32,770 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,048,660 บาทต่อบิทคอยน์ หรือ -6% เมื่อเทียบกับราคาปิดในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา
.
สาเหตุที่นักลงทุนไม่มั่นใจในการถือลงทุนเงินบิทคอยน์เมื่อยักษ์โซเชียลมีเดียจากจีนแผ่นดินใหญ่ เหวยโป่ เปิดเผยว่า ใช้นโยบายปิดกั้นบัญชีของนักลงทุนประเภทผู้มีชื่อเสียงในการลงทุนเงินคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งมีผลในวันเสาร์ที่ 5 มิถุนายนเป็นต้นไป เนื่องจากเป็นการสนองตอบกับนโยบายของทางการจีนแผ่นดินใหญ่ที่ประกาศนโยบายเข้าควบคุม และจัดการธุรกรรมเงินคริปโตเคอร์เรนซีที่ได้ประกาศมาก่อนหน้านี้
.
ปัจจัยลบดังกล่าวมีน้ำหนักมากในการลงทุนของนักลงทุนเงินดิจิทัลในขณะนี้ ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนจะได้ข่าวด้วนบวกจากประเทศเอล ซัลวาดอร์ ว่า ประธานาธิบดีประเทศเอล ซัลวาดอร์ ประกาศจะเตรียมพิจารณาออกกฎหมายให้เงินบิทคอยน์ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศ นอกจากนี้ บริษัท สแควร์ อินคอร์ปอเรชั่น ในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าจะลงทุนมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 160 ล้านบาท ในระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับเหมืองขุดเงินบิทคอยน์
.
ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านไปนั้น ถือเป็นเดือนแห่งความผันผวนของเงินคริปโตเคอร์เรนซีทั่วโลก โดยเฉพาะเงินบิทคอยน์ สาเหตุจากสารพัดปัจจัยลบที่มีตลอดเวลา เช่น ทางการจีนประกาศกิจกรรมหรือธุรกรรมรวมไปถึงตลาดซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับเงินคริปโตเคอร์เรนซี หรือเงินดิจิทัลจะต้องได้รับการตรวจสอบ และการกำกับอย่างละเอียด ทางการจีน เปิดเผยต่อไปว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องมือการลงทุนแบบดั้งเดิม พบว่าความเสี่ยงเกี่ยวกับตลาดสกุลเงินเสมือนจริงมีความเสี่ยงสูงอย่างมาก เนื่องจากตลาดยังไม่ได้พัฒนาเต็มที่ เต็มไปด้วยความผันผวนที่มากมาย การเก็งกำไรมีสูงอย่างมาก และการขาดกฎระเบียบในการกำกับการซื้อขายอย่างชัดเจน
.
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นประธานสภากรรมาธิการแห่งรัฐ ด้านการพัฒนาและความมั่งคงการเงิน จีนแผ่นดินใหญ่ กล่าวว่า จีนจะเปิดปฏิบัติการจัดการการขุดหา และซื้อขายสกุลเงินบิทคอยน์ในประเทศจีนต่อไป จีนแผ่นดินใหญ่เป็นแหล่งการขุดหาเงินบิทคอยน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีอัตราแฮชเรตสูงถึง 65% หรืออัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าของเครือข่ายเงินบิทคอยน์ในการยืนยันธุรกรรมและขุดหาเงินบิทคอยน์เหรียญใหม่
.
นางแจนเน็ท เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ได้ประกาศมาตรการกำกับเงินคริปโตเคอร์เรนซี หรือเงินดิจิทัล และการทำธุรกรรมเงินดิจิทัลที่มีความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ได้ประกาศเป็นกฎหมายบังคับใช้กับองค์กรภาคเอกชนที่ได้รับการโอนเงินคริปโตเคอร์เรนซีที่มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 320,000 บาท จะต้องรายงานต่อกรมสรรพกรทุกครั้ง รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เงินคริปโตเคอร์เรนซี ทำให้เกิดปัญหาการติดตามที่ร้ายแรง ด้วยการเกิดธุรกรรมที่ผิดกฎหมายในภาพรวม หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจน คือ การหนีภาษี
.
ด้านธนาคารกลางชั้นนำในหลายประเทศเริ่มเตือนการลงทุนในตลาดเงินดิจิทัลเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ได้แก่ ธนคารกลางประเทศนอร์เวย์ เตือนว่าภาวะความผันผวนของราคาสินทรัพย์เงินคริปโตเคอร์เรนซี อาจทำให้เกิดความยากลำบากต่อระบบการเงิน และระบบธนาคาร ถ้าหากว่าสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้นั้น ยังคงเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว ต่อมาธนาคารกลางประเทศแคนาดา กล่าวว่า ความผันผวนในสินทรัพย์เงินคริปโตเคอร์เรนซี กลายเป็นจุดกำเนิดของความเปราะบางที่มีต่อระบบการเงินของประเทศแคนาดา
.
ตลาดเงินบิทคอยน์ทั่วโลกเต็มไปด้วยความผันผวนอย่างรุนแรง เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 19 พฤษภาคม พบว่านักลงทุนกระหน่ำเทขายเงินบิทคอยน์อย่างหนักและรุนแรง กดราคาลงมาต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 30,001.51 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 960,048 บาทต่อบิทคอยน์ หรือดิ่งลงกว่า -30% ในระหว่างวันของการซื้อขายของวันดังกล่าว ส่งผลให้ในช่วงเวลานั้น ทำสถิติค่าเงินบิทคอยน์ต่ำสุดครั้งใหม่นับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 64 หรือในรอบ 4 เดือนกว่า นอกจากนี้ นับเป็นครั้งแรกที่เงินบิทคอยน์แลกในค่าเงินบาทหลุดต่ำกว่า 1 ล้านบาท เมื่อพิจารณาจากระดับต่ำสุดระหว่างวันในคืนวันดังกล่าว ทำให้ค่าเงินบิทคอยน์มีราคาหายไปมากที่สุดในสัปดาห์นี้ถึง -40%
