เทยกแผง! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งหนักเฉียด 300 จุด

221
0
Share:

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,706 จุด -292 จุด หรือ -0.86% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,228 จุด -55 จุด หรือ -1.29% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,705 จุด -260 จุด หรือ -2.01% ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ลดลง -0.16%, -1.21% และ -2.62% ตามลำดับ

สาเหตุจากความเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขาเซ็นต์หลุยส์ มองว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในขนาดใกล้เคียงกับช่วงผ่านมา นอกจากนี้ บันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ซึ่งเปิดเผยเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาว่า เฟดยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา ด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นต่อเนื่อง แต่ส่งสัญญาณว่าอาจทบทวนขนาดการปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าว

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 90.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.27 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยเมื่อคืนวันอังคารผ่านมา (ตามเวลาสหรัฐอเมริกา) มีราคาต่ำสุดระหว่างวันไปแตะที่ 85.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบต่ำสุดนับตั้งแต่ 26 มกราคม หรือในรอบ 6 เดือน 3 สัปดาห์ นอกจากนี้ รวม 2 วันทำการติดกัน ราคาน้ำมันดิบร่วงลงถึง 5.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 96.72 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยเมื่อคืนวันอังคารผ่านมา มีราคาต่ำสุดระหว่างวันไปแตะที่ 91.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบต่ำสุดนับตั้งแต่ 18 กุมภาพันธ์ หรือในรอบ 6 เดือน นอกจากนี้ รวม 2 วันทำการติดกัน ราคาน้ำมันดิบร่วงลงถึง 5.81 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกรายสัปดาห์ทั้ง 2 แห่ง ลดลง -1.5%

สำหรับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งรายเดือนร่วงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2020 ขณะที่สำนักงานรอยเตอร์ส ปรับลดราคาน้ำมันดิบคาดการณ์เฉลี่ยทั้ง 2 แห่งในปี 2022 ลงมาอยู่ที่ 101.28 และ 105.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล นับเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 3 เดือนผ่านมา หรือตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังคงสะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวด้านการจ้างงานอย่างแข็งแกร่ง โดยจำนวนแรงงานชาวอเมริกันยื่นขอสวัสดิการช่วงไม่มีงานทำรายสัปดาห์ลดต่ำลง และมีการปรับปรุงตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวในช่วงก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์ พบว่าเป็นตัวเลขลดลงอย่างมาก ปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาตกต่ำถึง 7.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,762.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -16,40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.5% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำล่วงหน้าปรับขึ้นกว่า -2.9% ทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม หรือในรอบ 1 เดือน 1 สัปดาห์ และหยุดสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 4 สัปดาห์ติดต่อกัน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกกลับแข็งค่ามากขึ้น ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นในคืนผ่านมากลับมาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยบันทึกการประชุมธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา เพี่อประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่อาจชัดเจนมากขึ้น ถึงแม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินขั้นพื้นฐานเดือนกรกฎาคมของสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นแต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ และยังลดต่ำลงจากเดือนก่อนหน้านี้ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี