เทสวนทาง! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พลิกปิดร่วงกว่า 70 จุด น้ำมันดิบโลกพลิกพุ่งเหนือ 74 ดอลล์

164
0
Share:
เทสวนทาง! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ พลิกปิดร่วงกว่า 70 จุด น้ำมันดิบโลกพลิกพุ่งเหนือ 74 ดอลล์

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,854 จุด -74 จุด หรือ -0.22% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,376 จุด -1 จุด หรือ -0.04% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,591 จุด +36 จุด หรือ +0.27%

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นเดือนนี้จนถึงเมื่อคืนผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทะยานขึ้น +2%, +4.7% และ +5.0% ตามลำดับ ขณะที่นับตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงเมื่อคืนผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทะยานขึ้น +2%, +14% และ +30% ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนยังกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในระยะยาว หลังจากนายเจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ที่เข้าร่วมประชุมธนาคารกลางยุโรปที่ประเทศโปรตุเกสในคืนผ่านมา กล่าวว่า เฟดต้องใช้นโยบายการเงิน หรือดอกเบี้ยระยะสั้นตึงตัวต่อเนื่อง ไม่ปฏิเสธการปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวติดต่อกันในช่วงครึ่งปีหลังนี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมั่นอกมั่นใจในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจากแนวโน้มการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ มาเปิดตัวในรูปแบบธุรกิจสายไอทีในอนาคต

ขณะที่ตัวชี้วัดแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ที่เรียกว่า ซีเอ็มอีเฟดวอทช์ ทูล พบว่า มีโอกาส 67% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าว 0.25% ในการประชุมเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งลดลงจากเดิมที่ให้น้ำหนัก 70% ในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ที่สำคัญ โอกาสลดดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 69.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.8%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 74.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.5%

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากสำนักงานจัดการข้อมูลพลังงานแห่งชาติสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบสำรองรายสัปดาห์จนถึงวันที่ 23 มิถุนายน พบว่าลดลงมากถึง 9.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ยังทำสถิติมากกว่าค่าเฉลี่ยลดต่ำลงในช่วงระยะเวลา 5 ปีติดต่อกันหรือระหว่างปี 2018-2022 ด้วย

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกลับมากังวลครั้งใหม่กับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสำคัญของโลกหลังจากคืนผ่านมา นายเจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด กล่าวว่าไม่ปฏิเสธการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นติดต่อกันในช่วงที่เหลือครึ่งปีหลังนี้

นอกจากนี้ ประธานธนาคารกลางกลุ่มยูโร หรืออีซีบี กล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อที่ยังควบคุมได้ยากนั้น ทำให้ธนาคารกลางต้องหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงจุดสิ้นสุดของอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2023 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,909.31 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -16.22 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.2% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,922.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -1.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.1%

ส่งผลราคาทองคำตลาดโลกปิดต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือน หรือนับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมเป็นต้นมา

ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากนักลงทุนกังวลกับการยืนยันแนวโน้มดอกเบี้ยระยะสั้นจากประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดในคืนผ่านมาว่า ยังต้องปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมถึงประธานธนาคารกลางกลุ่มยูโรที่กล่าวว่า เงินเฟ้อในกลุ่มยูโรยังควบคุมได้ยาก จึงเลี่ยงที่จะพูดถึงรอบการสิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น

ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าสูงขึ้น 0.4% สอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี เพิ่มสูงขึ้นรับทิศทางดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งปัจจัยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสำคัญของโลกยังคงเป็นปัจจัยลบต่อเนื่องของตลาดทองคำ

ขณะนี้ ตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริการาว 0.25% ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 82% มากกว่าเมื่อวานนี้ที่ระดับ 67%