เทหุ้นยกแผง! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งกว่า 160 จุด

304
0
Share:

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 31,173 จุด -164 จุด หรือ -0.52% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,854 จุด -44 จุด หรือ -1.15% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,372 จุด -262 จุด หรือ -2.26% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปรับขึ้น +0.8%, +1.9% และ +4.6% ตามลำดับ

สาเหตุจากเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของบริษัทในตลาดหุ้นนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนกังวลเนื่องจากไตรมาสที่ 2 เป็นช่วงภาวะการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงในรอบ 40 ปี ดังนั้นจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท นอกจากนี้ ในวันพุธนี้ นักลงทุนรอติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมิถุนายน โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนพฤษภาคมมาอยู่ที่ระดับ 8.8%

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 104.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.7% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 107.10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.08 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.1% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ และเบร็นท์ ร่วงลง -3.4% และ -4.1% ตามลำดับ

สำหรับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งถูกเทขายอย่างหนักมากถึง -10.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลนั้น ทำสถิติส่วนต่างราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำมากที่สุดอันดับ 3 นับตั้งแต่ราคาน้ำมันดิบดังกล่าวเริ่มทำการซื้อขายครั้งแรกเมื่อปี 1988 หรือในรอบ 34 ปี ส่วนต่างราคาน้ำมันดิบที่ทำสถิติดำดิ่งมากที่สุดในรอบ 1 วัน คือ -16.84 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม

สาเหตุนักลงทุนกลับมากังวลกับมาตรการล็อกดาวน์ และจำกัดการใช้ชีวิตของจีนแผ่นดินใหญ่ครั้งใหม่ เมื่อพบการระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายมณฑลและเมืองสำคัญที่คาดว่ากระทบประชาชนถึง 30 ล้านคน ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันดิบจะลดลง นอกจากนี้ ปัจจัยศาลในรัสเซียมีคำตัดสินให้ แคสเปียน ไพป์ไลน์ คอมซอร์เตียม หรือ CPC ระงับการปฏิบัติการส่งออกน้ำมันดิบใน 30 วันจากนี้ไป ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบราว 1% ของตลาดโลกหดหายไปจากตลาด นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาอาจประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับอิหร่าน

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,737 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -3.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.3% ยังคงมีราคาปิดใกล้เคียงสถิติราคาทองคำต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำร่วงลง -3.29% ทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์

ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจาก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกายังคงปรับแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 20 ปี สอดรับกับแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในสหรัฐอเมริกาจะเร่งตัวมากขึ้นต่อเนื่อง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเปิดเผยบันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินในสัปดาห์ผ่านไป นอกจากนี้ ราคาทองคำตลาดโลกในทางเทคนิคหลุดระดับ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ต่อเนื่องถึง 4 วันทำการติดต่อกัน