เปิดตลาดเอเชียเช้านี้น้ำมันดิบร่วงกว่า 4 ดอลลาร์ ฉุดราคาหลุด 117 ดอลลาร์

362
0
Share:
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าในทวีปเอเชีย สิงคโปร์ รายงานว่า วันนี้ 28 มีนาคม 2565 เวลา 8.45 น. (เวลาสิงคโปร์) ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ เคลื่อนไหวที่ 109.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -4.25 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -3.73% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ เคลื่อนไหวที่ 116.30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -4.35 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.61%
.
สาเหตุจากรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่สั่งปิดล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ทั้งเมืองเป็นเวลา 10 วัน ด้วยการสลับล็อกดาวน์ครั้งละ 5 วัน เริ่มวันนี้เป็นต้นไป กระทบประชาชน 25-26 ล้านคน นับเป็นการล็อกดาวน์เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่นับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่นในปี 2020 เป็นต้นมา นักลงทุนประเมินเป็นปัจจัยกระทบภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ชัดเจน ในฐานะเป็นประเทศบริโภคน้ำมันดิบใหญ่อันดับ 2 ของโลก นอกจากนี้ กลุ่มกบฎเยเมนประกาศพักโจมตี 3 วันในซาอุดีอาระเบีย หลังจากใช้โดรนติดจรวดยิงโจมตีคลังเก็บน้ำมันดิบของรัฐวิสาหกิจพลังงานใหญ่ที่สุดในซาอุดีอาระเบียมีชื่อว่าอรามโกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
.
ย้อนกลับไปเมื่อวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565 พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 113.90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.56 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +1.4% ก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 สัปดาห์ผ่านมา มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
.
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 120.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.4% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
.
ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ทะยานขึ้น +8.8% และ +11.5% ตามลำดับ และเป็นสัปดาห์แรกใน 3 สัปดาห์ผ่านมา ที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกรายสัปดาห์ปิดเพิ่มขึ้น
.
สาเหตุจากกลุ่มกบฎฮูติยิงจรวดโจมตีคลังเก็บน้ำมันดิบของรัฐวิสาหกิจน้ำมันดิบ อรามโก ประเทศซาอุดีอาระเบีย ทำให้ถังเก็บสำรองน้ำมันดิบขนาดใหญ่ 2 ถังได้รับความเสียหาย ซึ่งซาอุดีอาระเบียยืนยันว่าสามารถควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดจากการโจมตีได้ ท่ามกลางสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรในยุโรป มีการหารือในการพิจารณาร่วมปล่อยน้ำมันดิบสำรองเชิงยุทธศาสตร์เข้าสู่ตลาดโลก เพื่อกดดันราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูง