โฆษก ศบค.ย้ำขณะนี้ยังไม่มีแผนผ่อนปรนที่ชัดเจน ต้องรอผ่านศบค. – ครม. เป็นผู้อนุมัติเท่านั้น

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธน โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชาชนเริ่มกลับมาใช้บริการรถสาธารณะมากขึ้น สิ่งที่น่าห่วง พอเราทำอะไรมาดีระยะหนึ่งอาจจะเบาใจ สบายใจคิดว่าเบาใจ สบายใจ น่าจะผ่อนปรนได้ รวมทั้งน่าจะมีเหตุผลอื่น เช่น ต้องหาเลี้ยงชีพ มีธุระ แต่ต้องไม่ลืมว่าต้องใสหน้ากากอนามัยเสมอ ล้างมือเสมอ กินร้อน ช้อนตัว เว้นระยะห่าง ทำเป็นประจำ สัมผัสอะไรมาต้องไม่นำสัมผัสใบหน้า จะช่วยป้องกันได้ แต่ทั้งนี้ดีที่สุดคือหากมีกิจกรรมที่ไม่จำเป็นไม่ต้องไปก็ได้
.
สำหรับระบบขนส่งมวลชนก็ต้องให้ความร่วมมือ ต้องไม่ทำให้การโดยสารแออัดเกินไป ผู้โดยสารก็ต้องดูแลตัวเอง อย่าพูดคุยกันในช่วงระหว่างการใช้บริการ เพราะจะทำให้เกิดละอองฝอยออกมา โดยเฉพาะหน้ากากผ้า เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่
.
ตอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใหม่ๆประชาชนให้ความร่วมมือสูงมาก ตอนนี้ท่านก็ผ่อนมาก ยังไงก็ต้องเฝ้ารอว่าอีก 7 วัน ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะท่านผ่อนวันนี้ก็ไม่ได้เห็นผลพรุ่งนี้แต่จะเห็นอีก 7 วันข้างหน้า ตอนนี้เดือนเมษายนเอง เพิ่งยก 4 ยังต้องยืนยาวอีก 12 ยก ดังนั้นการ์ดอย่าตก
.
“ส่วนมาตรการผ่อนปรนต่างๆยังต้องศึกษาให้ชัดเจน แล้วผ่านการพิจารณาของศบค. และคณะรัฐมนตรี ซึ่งในวันนี้ยังไม่มีการประกาศแต่อย่างใด แต่แนวโน้มจะต้องยืดพ.ร.ก.ฉุกเฉินแน่นอน แต่จะมีการผ่อนปรนบ้าง ซึ่งยังไม่มีการลงรายละเอียด มีแต่ข้อมูลทางวิชาการในรูปแบบสิ่งที่จะเกิด ยังไม่มีการตัดสินใจแต่อย่างใด ส่วนการเดินทางข้ามจังหวัด ต้องศึกษาพื้นที่จังหวัดต่างๆว่าเป็นอย่างไร ศบค.มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัด เป็นผู้ออกกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันไป”
.
ด้านเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองติดเชื้อจากด่านสะเดา 1 คน ว่า มีการกักตัวไปแล้ว 49 คน อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 93 รวมทั้งหมด 142 คน ซึ่งจะต้องสอบสวนโรคว่าต้นเหตุมาจากที่ไหน เพื่อป้องกันควบคุมไม่ให้แพร่กระจาย ซึ่งชายแดนไทยและมาเลเซียพยายามที่จะควบคุมโรค โดยขณะนี้ได้ปิดด่านสะเดา 7 วันเพื่อทำความสะอาดและเปิดด่านให้มีความมั่นใจ โดยให้ไปใช้ด่านปาดังเบซาร์แทน

พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือผู้ที่จะเดินทางกลับจากมาเลเชีย ต้องมีใบรับรองแพทย์และลงทะเบียน โดยเดินทางผ่าน 5 ด่าน วันละ 350 คน และเมื่อเดินทางมาแล้วจะต้องถูกกักตัว 14 วัน จึงอยากให้ทยอยเดินทางเพื่อให้คนกลุ่มเก่าได้พัก
.