เปิดรับท่องเที่ยว ! บริษัทผุดใหม่เดือน ต.ค. 6,647 ราย เพิ่ม 12.45% ธุรกิจเกี่ยวเนื่องท่องเที่ยวฟื้น
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือน ต.ค.2566 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 6,647 ราย ลดลง 6.47% เมื่อเทียบกับ ก.ย.2566 และเพิ่มขึ้น 12.45% เมื่อเทียบกับ ต.ค.2565 มูลค่าทุนจดทะเบียน 27,210.97 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 2,240 ราย เทียบกับ ก.ย.2566 เพิ่ม 9.86% เทียบกับ ต.ค.2565 เพิ่ม 13.53% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ 8,954.24 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
สำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่รวม 10 เดือน ปี 2566 (ม.ค.-ต.ค.) มีจำนวน 75,312 ราย เพิ่มขึ้น 12.90% และจดทะเบียนเลิก จำนวน 15,250 ราย เพิ่มขึ้น 13.71%
โดยปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนจำนวนการจดทะเบียนธุรกิจให้เติบโตสูงขึ้น ยังคงมาจากภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก สะท้อนจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยใน 10 เดือน ปี 2566 มีจำนวนการจดจัดตั้งเพิ่มขึ้นสูงถึง 50.98% เช่น ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตรา ต่างประเทศ เพิ่ม 172% ธุรกิจตัวแทนการเดินทาง เพิ่ม 104% ธุรกิจจัดนำเที่ยว เพิ่ม 75.87% ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร เพิ่ม 39.55% และธุรกิจโรงแรม รีสอร์ตและห้องชุด เพิ่ม 37.57% มีสัดส่วนคิดเป็น 8.16% ของจำนวนธุรกิจที่จัดตั้งทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจน่าจับตามอง ที่เพิ่มกว่า 155% เช่น ธุรกิจขายส่งข้าวเปลือกและธัญพืช เพิ่ม 173% คาดว่าเป็นผลมาจากนโยบายการส่งเสริม BCG Model โดยเฉพาะการสนับสนุนต้นทุนการผลิตข้าวรักษ์โลก และธุรกิจกิจกรรมบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง เพิ่ม 150% คาดว่าเป็นผลมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กลับมาเติบโต
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น กรมได้คาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ของปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 32,000-39,000 ราย และตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 79,000–86,000 ราย
ปัจจุบัน มีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น ณ วันที่ 31 ต.ค.2566 จำนวน 889,424 ราย มูลค่าทุน 21.63 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 200,041 ราย คิดเป็น 22.49% บริษัทจำกัด จำนวน 687,947 ราย คิดเป็น 77.35% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,436 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ
