เปิดใจกัน! ส่อง 2 หนุ่มหันมาขับแกร็บไฟฟ้า 100% ทำไมชีวิต-งาน-รายได้ ถึงเปลี่ยนไปเยอะ

386
0
Share:
เปิดใจกัน! ส่อง 2 หนุ่มหันมาขับ แกร็บ ไฟฟ้า 100% ทำไมชีวิต-งาน- รายได้ ถึงเปลี่ยนไปเยอะ

แดน ธนมิตร พัวพงศกร พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บคาร์วัย 47 ปี เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการก้าวสู่อาชีพนี้ว่า “เมื่อก่อนผมก็เป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานได้เงินเดือนชนเดือน บางเดือนก็ไม่พอใช้ด้วยซ้ำ พอดีกับที่ตอนนั้นแกร็บเปิดรับสมัครคนขับอยู่ ผมเลยลองสมัครดูเพราะอยากมีรายได้เสริม แต่กลายเป็นว่างานเสริมตรงนี้ให้รายได้ดีกว่างานประจำที่ทำอยู่ บวกกับความยืดหยุ่นของงานที่ทำให้ผมมีเวลาดูแลแม่มากขึ้น ผมเลยตัดสินใจยึดอาชีพขับแกร็บคาร์เพื่อรับส่งผู้โดยสารเป็นงานหลัก จนถึงตอนนี้ก็ 7 ปีกว่าแล้วที่ขับแกร็บมา”

แดนเล่าว่าไม่นานก็หันมาใช้บริการเช่ารถขับกับแกร็บ ซึ่งเรตค่าเช่าถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 40-50% ทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น จนล่าสุดเมื่อปีที่แล้วแกร็บเปิดตัวโปรแกรมสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อพาร์ทเนอร์คนขับ ผมมีความสนใจในเรื่องรถ EV อยู่แล้วจึงได้ลองสมัครเพื่อขอรับสินเชื่อ ข้อดีของโปรแกรมนี้คือคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ แถมยังสามารถผ่อนจ่ายได้แบบรายวัน วิธีการสมัครก็ไม่ยุ่งยาก เพราะเรามีประวัติการให้บริการที่ดีอยู่แล้ว พอยื่นเรื่องว่าเราสนใจสมัครสินเชื่อกู้ซื้อรถ เลือกยี่ห้อและรุ่นที่ต้องการ พออนุมัติผ่านก็ทำสัญญา ไม่นานบริษัทก็ติดต่อกลับมาเพื่อให้ไปรับรถได้เลย ทำให้ผมได้มีรถคันแรกเป็นของตัวเอง ซึ่งผมรู้สึกภูมิใจมากๆ

ทุกวันนี้ผมจ่ายเงินค่าชาร์จไฟฟ้าแค่วันละประมาณ 200 บาท เฉลี่ยแล้ววิ่งกิโลเมตรละไม่ถึง 1 บาท รับส่งลูกค้าได้ทั้งวัน เวลาสตาร์ทรถก็เงียบ ขับนานๆ ก็ไม่มีกลิ่นเหม็นไหม้จากท่อไอเสีย ลูกค้าที่ใช้บริการก็ชอบกันมากเพราะนั่งสบาย ไม่สร้างมลพิษ สมรรถนะและความเร็วก็ไม่แพ้รถที่เติมน้ำมัน แถมระบบความปลอดภัยของตัวรถก็ดี เรียกได้ว่าตัดสินใจไม่ผิดเลยที่เลือกใช้รถ EV

ว่าน กานต์ณัฐิ พูลทรัพย์ พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บฟู้ดวัย 44 ปี อดีตวินมอเตอร์ไซค์ที่ยึดอาชีพขับรถรับจ้างมานานกว่า 10 ปีเล่าว่า เริ่มรู้จักแกร็บครั้งแรกเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ช่วงนั้นมีทีมงานลงพื้นที่มาแนะนำการใช้แอปฯ ผมเลยลองให้บริการรับส่งผู้โดยสารผ่านแอปฯ ควบคู่ไปกับการขับวินเพราะอยากมีรายได้มากขึ้น จนวันนึงรายได้ที่มาจากแกร็บมากกว่าการขับวิน ผมเลยตัดสินใจมาขับแกร็บเต็มตัว พอช่วงที่โควิดระบาดผมก็หันมาขับแกร็บเพื่อรับส่งอาหารเพราะมีผู้ใช้บริการเยอะมาก และยังคงทำต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ผมมองว่าแอปฯ อย่างแกร็บคือโอกาสที่เข้ามาช่วยทำให้คนมีทางเลือกในการหารายได้มากขึ้น จะเป็นรายได้หลักหรือรายได้เสริมก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน

อาชีพของผมต้องใช้รถทุกวัน เกือบทั้งวัน เลยมีต้นทุนในการดูแลรถสูงกว่าคนทั่วไป ทั้งค่าน้ำมันที่ต้องเติมเฉลี่ยวันละ 200 กว่าบาท ยังไม่รวมค่าบำรุงรักษา ทำให้แต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถแตะหลักหมื่น จนเมื่อไม่นานมานี้แกร็บเริ่มทำโครงการ Grab EV เพื่อให้คนขับสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์ EV มาทดลองใช้ให้บริการ ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่สมัครเข้าร่วมโครงการ

พอได้มาขับจริงก็เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ช่วยให้เราลดรายจ่ายไปได้เยอะ เพราะไม่ต้องมีค่าน้ำมัน ค่าเปลี่ยนแบตก็ฟรี ค่าเช่าก็ไม่แพง ยิ่งเช่านานก็ยิ่งถูกลง เฉลี่ยตกเดือนละประมาณ 4,000 บาท ทำให้ตอนนี้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่เกี่ยวกับรถลดลงไปได้ถึง 60% ขณะที่สมรรถนะของรถ EV ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องแบตเตอรีที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสุดถึง 140 กิโลเมตรต่อหนึ่งรอบการชาร์จ และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ประมาณ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง