เฟสบุ๊กเสียหาย 8.5 ล้านล้านบาทข้ามคืน เป็นประวัติศาสตร์ ราคาหุ้นดิ่งเหว -26%

420
0
Share:
เฟสบุ๊ก

ตลาดหุ้นนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เผชิญแรงกระหน่ำเทขายอย่างหนักทั้งคืนผ่านมาจากนักลงทุนแห่ขายหุ้นบริษัท เมตา อินคอร์ปอเรชั่น (Meta) เจ้าของสื่อโซเชียลมีเดียชื่อดัง เฟสบุ๊ก (Facebook) ทำให้ราคาหุ้นเมตาปิดตลาดดำดิ่งรุนแรง -26.4% ฉุดมูลค่าบริษัท เมตา อินคอร์ปอเรชั่น เสียหายถึง 251,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8.54 ล้านล้านบาท สร้างสถิติบริษัทในตลาดหุ้นนิวยอร์กที่มีราคาเสียหายมากเป็นประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ในขณะเดียวกัน มูลค่าความร่ำรวยของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมตา อินคอร์ปอเรชั่น เสียหายมากถึง 29,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 986,000 ล้านบาทเพียงชั่วข้ามคืน ซึ่งเป็นผลจากราคาหุ้นเมตา อินคอร์ปอเรชั่น ที่ทรุดหนักตลอดทั้งคืนผ่านมา หลังปิดตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ พบว่า มูลค่าบริษัทเหลืออยู่ที่ประมาณ 900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 30.6 ล้านล้านบาท

ภาวะกระหน่ำเทขายหุ้นบริษัท เมตา อินคอร์ปอเรชั่น เกิดจากบริษัทในเครือมีชื่อว่า เรียลลิตี้ แลปส์ ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อภาระกิจสำคัญในการสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ชื่อว่า เมตาเวิร์ส Metaverse ของเมตา อินคอร์ปอเรชั่น (เฟสบุ๊ก) มีผลประกอบการขาดทุนสูงมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 340,000 ล้านบาทในปี 2564 ที่ผ่านมา นับเป็นผลการดำเนินงานขาดทุนที่มากมายอย่างมหาสารภายในปีเดียว จากการริเริ่มของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ เมตา อินคอร์ปอเรชั่น ที่ต้องการสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ในอนาคตเรียกว่าเมตาเวิร์ส

เมื่อเปิดเผยข้อมูลการเงินของเรียลลิตี้ แลบส์ พบว่า มีผลการดำเนินงานขาดทุนทุกปีในช่วง 3 ปีติดต่อกันผ่านมา เริ่มจากปี 2019 ขาดทุนสุทธิ 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 153,000 ล้านบาท ต่อมาในปี 2020 ขาดทุนสุทธิ 6,620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 225,080 ล้านบาท และในปี 2021 ขาดทุนสุทธิ 10,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 346,460 ล้านบาท รวมขาดทุนสุทธิสะสม 3 ปีติดกันพุ่งสูงมากมายถึง 734,540 ล้านบาท

จำนวนบัญชีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายวันทั่วโลกที่ใช้งานเป็นประจำในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ลดลงจาก 1,930 ล้านบัญชีมาเหลือ 1,929 ล้านบัญชี หรือลดลงมากถึงราว 500,000 บัญชี ส่งผลให้เป็นครั้งแรกที่เฟสบุ๊กมีจำนวนบัญชีลดลงนับตั้งแต่เริ่มมีเฟสบุ๊กเป็นต้นมา

ก่อนหน้านี้ ผลประกอบการในด้านยอดบัญชีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายวันทั่วโลกที่ใช้งานเป็นประจำ หรือ Active Users ที่ลดลงดังกล่าว ทำให้ราคาหุ้นเมตา อินคอร์ปอเรชั่น หรือเฟสบุ๊ก มีราคาดำดิ่งอย่างรุนแรงถึง -20% หลังจากปิดตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565
เมตา อินคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า สาเหตุมาจากการปรับเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ หรือ iOS ตามนโยบายของสมาร์ทโฟนไอโฟนของแอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น ที่ต้องกันรักษาและปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวสำหรับผู้ใช้งานไอโฟน ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เมตา อินคอร์ปอเรชั่น ประเมินว่านโยบายของแอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อสื่อโซเชียลมีเดียชื่อดัง และใหญ่ที่สุดในโลกเฟสบุ๊ก

ระบบปฏิบัติการของไอโฟน ส่งผลให้ผู้ลงโฆษณา สปอนเซอร์ เจ้าของธุรกิจทุกขนาด องค์กรทั่วไปที่ทำการโฆษณาบนแพลทฟอร์มของเฟสบุ๊ก มีความยากลำบากมากขึ้นในการเลือกซื้อโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และประเมินผลประสิทธิภาพในการซื้อโฆษณากับเฟสบุ๊กรวมถึงอินสตาแกรม
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน เมตา อินคอร์ปอเรชั่น นายเดฟ วีเนอร์ กล่าวว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ iOS ของไอโฟนที่มีต่อเมตา อินคอร์ปอเรชั่น จะมีสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 340,000 ล้านบาทในปี 2565

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มีสถิติบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นที่มีราคาหุ้นดำดิ่งอย่างรุนแรงจากการเทขายหุ้นของนักลงทุน เรียงลำดับตามมูลค่ามากไปหาน้อย ดังนี้
3 ก.พ.65: เมตา(เฟสบุ๊ก) 252,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 8.57 ล้านล้านบาท
3 ก.ย.63: แอปเปิล 180,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 6.12 ล้านล้านบาท
16 มี.ค.63: ไมโครซอฟท์ 178,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 6.05 ล้านล้านบาท
9 พ.ย. 64: เทสล่า 140,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.76 ล้านล้านบาท
30 ก.ค. 64: อเมซอน 130,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.42 ล้านล้านบาท
26 ก.ค. 61: เฟสบุ๊ก 121,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.11 ล้านล้านบาท